คำสอนของย่า

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ย่าเคยสอนว่า"หัวค่ำ กินพอดึงผ้าห่มรอด"


เริ่มที่ดอกชมจันทร์


ไข่เป็ดแม่ให้มาเมื่อวันเลือกตั้ง ตอก ตี และใส่ซอสปรุงรสนิดหน่อย


ข้าวเย็นเหลือติดหม้อนิดหน่อยกวาดลงในถ้วยไข่ คลุกเคล้าให้เข้ากัน

ใส่ดอกชมจันทร์ที่เอาเกสรออกแล้วลงไปคลุกอีกครั้ง

วางไบตองในกระทะ(แบบที่ทำไข่เจียวใบตองแต่ทำไข่เจียววางแค่ 3ชั้น) กลัวไหม้เลยวางไป 4 ชั้น

ใส่ข้าวที่คลุกไว้แล้วลงไปตะล่อมให้สวยงาม

ใช้เตาถ่านทุกวันมาเกือบ 3 เดือนแล้วครับ

หลังกระทะตั้งไฟแล้วใช้มือกดฝาหม้อไว้สักครู่ ให้ใบตองร้อนและแนบสนิทกับฝาหม้อ

15 นาทีผ่านไป เปิดฝาออกดู ข้าวไม่แห้งอย่างที่คิด คงเป็นเพราะน้ำในดอกชมจันทร์

เปิดฝาไว้ตั้บนเตาต่อสักครู เอาจานครอบแล้วคว่ำกระทะ แอน แอ่น แอ้น

ข้างล่างดูแข็งและกรอบ ลองเปิดข้างในดูหน่อย ดีกว่า


หลังจากเลือกกินที่กรอบแล้ว  ที่เหลือเหมือนข้าวผัดเลยครับ


งานชิ้นนี้เข้ากับหลักอิทธิบาท 4(ธรรมมะแห่งความสำเร็จ)

ฉันทะ  คือ รัก รักที่จะกิน รักที่จะใช้ชีวิตแบบนี้

วิริยะ    คือ ความพากเพียรในการทำในสิ่งที่รัก

จิตตะ   คือ  ความเอาใจใส่ในสิ่งที่ทำ

วิมังสา  คือ ความสอดส่อง หาเหตุ หาผล

 

ข้อแนะนำเพิ่มเติม อาจใส่ผัก เครื่องเทศ เครื่องแกง หรือเนื้อสัตว์ ที่เหมาะสมได้ตามชอบครับ

 

ขอให้ สมช.ทุกท่านมีความสุขกับชีวิตแบบพอเพียงนะครับ


ความเห็น

น่ากินครับแบบนี้ต้องลองแล้วครับ


คุณย่าสอนเหมือนพ่อเลย พ่อก็บอกแบบนี้เหมือนกัน

กินพอดึงผ้าห่มรอด...ก็ดีนะ เพื่อสุขภาพ

แต่..ตัดยางไม่รอด ทำปรือหล่าว...5555

 

อยู่แต่สวนใช้ชีวิตง่ายๆไม่แขบ กะดีนะ

ใช้เตาถ่าน แลๆแล้วนึกถึงหัวมันหมกค่ะ..

Laughingทำวันนี้ให้ดีที่สุด เวลาชีวิตน้อยลงทุกวัน

สงสัยใส่ดอกชมจันทร์เยอะไป เช้านี้เลยตื่นเข้าห้องน้ำตั้งแต่ ตี 5 ครึ่ง เบาท้องมาก ๆ เลยครับพี่น้อง   555555

:uhuhuh:

ตอนเป็นเด็ก....มีแรง มีเวลา แต่ไม่มีเงิน กลางคน.....มีเงิน มีแรง แต่ไม่มีเวลา ปั้นปลาย.....มีเงิน มีเวลา แต่ไม่มีแรง

ตอนนี้ยังอยากได้เกษรชมจันทร์ไปทำชาระบายอยู่อีกรึเปล่าน้อง...... แต่การเข้าห้องน้ำทำให้เบาตัวลงไปเยอะเลยนะ

ห่อใบตอง น่าจะหอม เดี๋ยวจะลองทำดูบ้างคะ :uhuhuh: :uhuhuh:

หน้า