เล่าเรื่องเมืองสงขลา
เมื่ิอวานนี้เป็นวันสุดท้ายของงานสมโภชน์๑๗๐ปีหลักเมืองสงขลา ได้มีโอกาสไปเดินคิดว่าคงมีภาพที่น่าสนใจมาฝากเพื่อนๆบ้าง
ร้าขนมพื้นเมืองขึ้นชื่อของสงขลา
บางภาพที่เอามานำเสนอได้จากงานนิทรรศการ ภาพเล่าเรื่อง...เมืองสงขลา ขอขอบคุณช่างภาพผู้ถ่าย(หลายคน)รวมถึงผู้ที่มีส่วนร่วมในการจัดงานนี้ทุกๆท่านครับ
นี่เป็นภาพที่ได้จากนิทรรศการ...เป็นภาพริมหาดเก้าเส้งที่มีเรือประมงขนาดเล็กจอดอยู่
ภาพนี้ก็ได้จากนิทรรศการ...เช่นกัน ผู้ถ่ายต้องการสื่อถึงการชายหาดเก้าเส้งกำลังเปลี่ยนไปจากการกัดเซาะชายหาดของคลื่น โดยมีเครื่องกลหนักมายกย้ายก้อหินขนาดใหญ่มาวาง หาดทรายกำลังกลายเป็น แนวหินจากภูไกล
ศาลานั่งพักของผู้มาเยือนหาดสมิหราที่มีการบูรณะครั้งแล้วครั้งเล่า ยังอยู่เป็นเพื่อนนางเงือกที่มีลักยิ้มแต่ไม่บอกว่าข้างไหน
(ได้จากนิทรรศการ...เช่นกัน)
เรือประมงลำนี้ถูกลมพายุซัดมาอยู่ที่โขดหินใกล้ๆนางเงือกเมื่อคราวพายุเข้าสงขลาเมื่อปลายปี2553(ภาพจากนิทรรศการ...)
สาวงามนางมโนราห์(ภาพจากนิทรรศการ...)
คุณยายท่านนี้ขายกล้วยปิ้งถนนนครใน(ร้านเดิมอยู่ฝั่งตรงข้ามของร้านปัจจุบัน)มานานมากแล้วตั้งแต่ตอนผมเป็นวัยรุ่น ชีวิตที่ไม่เร่งร้อน ได้รับการกล่าวถึงว่าซื้อกล้วยปิ้งเจ้านี้ต้องจองคิว บางวันไม่มีคิวให้ ขายดีแต่ไม่คิดขยายสาขาหรือกิจการ(ภาพจากนิทรรศการ...)
ตึกเก่าวัฒนธรรมชิโนโปรตุกิสถนนนครในไม่ไกลจากยายทีขายกล้วยปิ้ง(ภาพจากนิทรรศการ...)
หลังนี้อยู่ถนนนางงาม เมือก่อนไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะเราเร่งรีบใ้ห้ทันเทคโนโลยีกลัวเชยและล้าหลัง(ไอแผด ไอโฟน 3 จี แทบเลท)ต้องการไปให้ถึงเป้าหมายจนลืมหวนดูสิ่งรอบข้างว่าได้ให้ความสุขและความอิ่มใจในวัฒนธรรมที่แสดงถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ(สตรีด้วยก็ได้)
(ภาพจากนิทรรศการ...)
ขออนุญาตแก้ข้อผิดพลาดเพิ่งไปสถานที่จริงมา(18ก.ค 2555)บ้านหลังนี่้ไม่ได้อยู่ถนนนางงาม แต่อยู่ถนนยะหริ่งหัวมุมตัดกับถนนนครในครับ
หลายครั้งที่ผ่านไปแล้วไม่เคยมองด้วยความใส่ใจ มารู้อีกทีเกือบสายไปที่จะได้ซาบซึ้งกับสถาปัตยกรรมในยุคของคนรุ่นก่อนเก่า ในวันอาทิตย์มีตลาดนัดที่เอาของเก่าๆ เก้าอี้เก่าๆ ตู้เก่าๆ บานประตูเก่าๆมาขาย ของเหล่านี้ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เราไม่ใส่ใจประวัติของตัวเราเอง ทุกวันนี้เราเร่่งวันเร่งคืนไปสู่ความล่มสลายของชุมชนและวัฒนธรรมของความเป็นเรา ต่อไปนี้ไม่มีแผ่นดินไหวแล้ว เพราะว่าตอนนี้แผ่นดินไม่ไหวแล้ว เนื่องจากเราทำลายธรรมชาติกันเหลือเกินฉีดยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลงที่ทำร้ายแม่พระธรณีแม่พระคงคาจน แผ่นดินไม่ไหวแล้ว
(ภาพจากนิทรรศการ...)
ถ่ายไว้หลังพายุเข้าเมื่อปลายปี 2553
กำแพงเมืองเก่าหลังจากพายุเข้าสงขลาเมื่อปลายปี 2553 กำลังได้รับการบูรณะโดยกรมศิลปากร(ให้เห็นการซ่อมแซมกำแพงเมืองเก่า)
เพิ่งออกไปถ่ายมาเมื่อสักครู่(หยุดเขีียนแล้วออกไปถ่ายมา) ตอนผมยังเป็นเด็กทางการใช้กำแพงเมืองเก่านี้เป็นเรือนจำขังนักโทษ ต่อมาย้ายเรือนจำไปไว้นอกเมือง ตรงนี้เหลือกำแพงอยู่ด้านเดียวเป็นโบราณสถานไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา แต่เด็กเดี๋ยวนี้ไม่สนใจ ก็เอาแต่ขับรถหนวกหูชาวบ้านไปวันๆ
บุคคลท่านนี้เป็นคนเก่าคนแก่ของสงขลาท่านนึงที่ผมเคยพบเห็นตั้งแต่ผมยังเด็กๆแต่ไม่เคยพูดคุยด้วย ดูท่าทางอัธยาศัยดีเป็นอีกคนหนึ่งที่นั่งสามล้อในเพลงเสน่ห์สงขลา ของพี่ศุ บุญเลี้ยงไงครับ
ฟังกันอีกซักครั้งนะครับท่าน เผื่อจะได้กระตุ้นสำนึกรักบ้านเกิดของเราทุกคน หากใครเคยมาสงขลาหรือคนสงขลาที่ไปอยู่ไกลบ้าน อยากบอกว่าสงขลายังคงรักพวกคุณทุกคนครับ
ก่อนจบขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับภาพถ่ายจากนิทรรศการ ภาพเล่าเรื่อง เมืองสงขลา ขอบคุณช่างภาพทุกท่าน ขอบคุณผู้ที่มีส่วนในการจัดงานสมโภชน์ ๑๗๐ ปี หลักเมืองสงขลา ขอบคุณผู้จัดทำเวบบ้านสวนพอเพียง และคณะกรรมการที่มีส่วนร่วมในการการจัดทำเวบฯทุกท่านครับ ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาชม
- บล็อกของ อินเนียร์
- อ่าน 9028 ครั้ง
ความเห็น
Sopha B'
16 กรกฎาคม, 2012 - 14:28
Permalink
Re: เล่าเรื่องเมืองสงขลา
สาว่านานมากแล้วที่ไม่ได้ไปถึงสงขลา แต่ก็อยู่สงขลานี่แหละ
อินเนียร์
16 กรกฎาคม, 2012 - 14:32
Permalink
Re: เล่าเรื่องเมืองสงขลา
คงเป็นที่อากาศร้อนไม่ค่อยมีใครอยากออกไปไหนขับมอเตอร์ไซค์ก็แสบแขนไปหมด แม้แต่ตอนเย็นก็อบอ้าวเลย
วรพจน์ เอียดจันทร์
16 กรกฎาคม, 2012 - 15:31
Permalink
Re: เล่าเรื่องเมืองสงขลา
สงขลา ร้อยเจ็ดสิบปี มีทั้งประวัติศาตร์และวัฒนธรรมประเพณี แต่แปลก ปัจจุบันนี้ กลับไม่มีวิชาประวัติศาตร์ ไม่มีวิชาหน้าที่ศีลธรรม และพลเมือง แต่กลับเอาอะไรนะมายัดเยียดให้เด็กประถมมีใช้ แท็ปเลท ผมสงสัยว่า เด็กวัยประถม มีแต่ต้องฝึกหัด ให้เขียนพยัญชนะ อักขระ ของไทย เพื่อการพัฒนาไปตามทักษะ แต่......ฯลฯ ??????
ถามว่าอนาคตข้างหน้า เด็กไทยจะเขียนภาษาไทยเป็นหรือเปล่า วัฒนธรรมและอื่น ๆ ไม่ต้องแหลงถึง
การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ
อินเนียร์
26 เมษายน, 2014 - 19:52
Permalink
Re: เล่าเรื่องเมืองสงขลา
ผมคิดว่าเรามาไกลมากแล้วจริงๆ เราถูกหลอกให้เพลินไปกับเทคโนโลยี เราไม่เคยฉุกคิดกันเลย ทุกวันเราสนใจแต่จะหาเงินมาให้พอใช้ เดี๋ยวนี้เรากินข้าว3มื้อเหมือนเมื่อยุค50ปีที่แล้ว แต่ความสุขคนเราลดน้อยลงไปเรื่อยๆทั้งๆที่มีวิธีการบันเทิงมากกว่ารุ่นปู่-ย่าเราเยอะ เพราะอะไร ไอ้แทปเลทมันแค่หนึ่งในไม่รู้อีกเท่าไร ยุคโน้นดิ้นรนเรียนกันหาเงินมาเสียค่าเทอม สมัยนี้เรียนฟรีแจกหนังสือฟรีแล้วเป็นไง? ครูก็ถูกใช้ใ้ห้ไปจัดงานนั่นงานนี่ ประชุม เขียนผลงานทุกวันนี้ครูแทบไม่มีเสาร์อาทิตย์ไม่มีปิดเทอม แต่เด็กแย่ลงเรืื่อยๆโดยเฉพาะความรับผิดชอบ ทุกจุดมันช๊อตไปหมดแล้ว ระวังว่าคนรุ่นนี้ก็จะเป็นเหมือนฝาบ้านหลังเก่าๆที่เด็กเดินผ่านเลยไปโดยไม่สนใจ พม่ามาทำงานในบ้านเราเสาร์อาทิตย์ไปเรียนกศน.ไปฝึกสถาบันแรงงานฝึกฝีมือ ในสถานประกอบการมีพม่าทำงานเยอะแยะ แล้วเด็กไทยอยู่ไหน นอนยังไม่ตื่นเพราะกลางคืนไม่นอน พ่อแม่เอาลูกที่เรียนอนุบาลไปส่งที่โรงเรียนเวลา 9 โมงเข้าไปแล้วทำไมเป็นแบบนี้ อะไรที่มันยังเป็นเหมือนที่มันควรเป็นบ้าง มากมายก่ายกองหลากหลายปัญหา คิดแล้วปวดหัวแต่ก็ต้องคิด ขอบคุณ คุณวรพจน์ครับที่ช่วยกันคิด
อยากตั้งประเด็นให้เราช่วยกันคิดว่าทำไมไม่มีวิชาประวัติศาสตร์ หน้าทีพลเมือง ให้ช่วยกันออกความคิดเห็นกัน ดีมั๊ยครับ หรือเราจะเดินตามกระแสไปเรื่อยๆจนหมดแรง
ริมสวนยาง
16 กรกฎาคม, 2012 - 16:02
Permalink
Re: เล่าเรื่องเมืองสงขลา
ยินดีด้วยค่ะ ---มีเมืองเป็นที่เชิดหน้าชูตา ขอบคุณมากนะคะ ที่นำมาให้ชม--(หวังว่าคงได้ชม สิ่งมีค่าอีกในบล๊อค ต่อไปค่ะ)
อินเนียร์
16 กรกฎาคม, 2012 - 16:20
Permalink
Re: เล่าเรื่องเมืองสงขลา
ขอบคุณ คุณอิ๋วมากครับ ที่ผมอยากบอกมากๆคือ เราทุกคนมีเมืองมีสิ่งดีๆอยู่ในเมืองของแต่ละคนทุกคนครับ แต่เรายังไม่ได้มองหรือมองแบบผ่านๆ ลองดูซิครับทุกที่เลยมีของดีๆอยู่ทุกแห่งจริงๆครับ ผมเอาภาพสวยๆมาให้ดูและชวนให้ช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เรามีอยู่ก่อนที่จะหายไปครับ
ศิรินันท์
16 กรกฎาคม, 2012 - 20:26
Permalink
Re: เล่าเรื่องเมืองสงขลา
ศาลานั่งพักของผู้มาเยือนหาด สมิหรา ที่มีการบูรณะครั้งแล้วครั้งเล่า ยังอยู่เป็นเพื่อนนางเงือกที่มีลักยิ้มแต่ไม่บอกว่าข้างไหน ขอตอบ..มีทั้ง2ข้างค่ะ.ฮ่าๆได้เจอขนมร้านของฝากพี่ข้าวโอ๊ตด้วย.ได้ยินพี่ข้าวโอ๊ตว่า..สักวัน.ผมโตขึ้น.ผมจะไปเที่ยวที่แม่เคยไปกับคุณพ่อ ที่ถ่ายรูป ให้ได้..นันท์ได้ไปยังอยากกลับไปเยือน อีกสักครั้ง
https://www.facebook.com/Sirinanpraewa
อินเนียร์
16 กรกฎาคม, 2012 - 20:36
Permalink
Re: เล่าเรื่องเมืองสงขลา
เรื่องมาเที่ยวตอนนี้รอก่อนนะครับ พี่ข้าวโอ๊ตกับน้องแพรวาอยากได้อะไรทางนี้บอกลุงอินเนียร์มา เดี๋ยวลุงจัดให้ทุกอย่างที่ต้องการเลย จริงๆนะบอกมา
:embarrassed: :embarrassed: :embarrassed:
ศิรินันท์
16 กรกฎาคม, 2012 - 20:50
Permalink
Re: เล่าเรื่องเมืองสงขลา
https://www.facebook.com/Sirinanpraewa
อินเนียร์
16 กรกฎาคม, 2012 - 21:49
Permalink
Re: เล่าเรื่องเมืองสงขลา
-เก่งจังลุงอินเนียร์ท่องได้แค่แม่ 12เิอง แบบนี้ยิ่งต้องให้รางวัลเพราะลุงอินเนียร์ชอบและชื่นชมคนเก่งไม่ว่าการช่วยคุณพ่อแม่ทำงานหรือเรียนหนังสือโดยเฉพาะทำให้คุณพ่อคุณแม่ชื่นใจบอกมาเลยไม่ต้องเกรงใจ แล้วลุงอินเนียร์จะคอยชมนะครับ ทั้งพีข้าวโอ๊ตและน้องแพรวา
-คุณแม่ศิรินันท์ชอบทำอาหารแล้วเผยแพร่วิธีทำให้เพื่อนๆได้ไปทำต่อ(แอบกระซิบว่าสูตรข้าวผัดลุงอินเนียร์แอบจดไปทำแล้วได้ผลเพราะทำมาหลายครั้งก็ไม่ได้เรื่องพอใช้สูตรคุณแม่ศิรินันท์ได้ผลเลยแต่ไม่กล้าบอก อายน่ะ แต่เห็นเพี่อนสมช.ผู้หญิงเขากล้าบอกผมเลยสารภาพบ้าง)เท่าที่ฟังในเพลงเสน่ห์สงขลามีของอร่อยๆของสงขลาอยู่บ้าง หากคุณแม่ศิรินันท์หรือน้องแพรวากับพี่ข้าวโอ๊ตถูกตาต้องใจอะไรอย่าเกรงใจนะครับ เขียนในข้อความส่วนตัวมาบอกได้เลย ยินดีที่ได้บริการครับ
หน้า