ปั่นจักรยานท่องเที่ยวไทยไปได้ค่ะ ตอนที่ 2

หมวดหมู่ของบล็อก: 


จุดมุ่งหมายที่กลับบ้านคราวนี้ของอ้อยหวาน คือไปอยู่กับย่า ย่าอายุ 102 ปีค่ะ เดินเหินไม่ได้แล้ว แต่กินข้าวเองได้ ย่ามีคนดูแล แต่สิ่งที่คนอายุมากขนาดนี้ต้องการมากกว่าคนดูแลคือลูกหลาน มานั่งคุย นั่งกินข้าวด้วย
ตลอดเวลา 4 อาทิตย์ที่อ้อยหวานอยู่นครศรีฯ เช้าออกไปปั่นจักรยาน กลางวันอยู่กับย่า กลางคืนอยู่กับพ่อแม่ ลงตัวพอดี

การปั่นจักรยานเที่ยวทุกเช้าทำให้ได้พบได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่ธรรมดา

เช่น....ปั่นจักรยานพาวัวชนไปเดินเล่นออกกำลัง


ค่ายวัวชน

วันหนึ่ง..ผ่านหมู่บ้านแห่งนี้


เจอยายหลานจูงมือเดินเล่นกะหนุงกะหนิง เป็นภาพที่ชี้ชวนให้เลี้ยวเข้าไปในหมู่บ้าน


แล้วไม่ผิดหวังเลยค่ะ อ้อยหวานชอบบ้าน..เถียงนาหลังนี้ หรือจะเรียกว่าอะไรดี

ทางใต้เขาเรียกว่า "หนำ" ขอบคุณลุงเรินค่ะ


แล้วเจอตากับหลานคู่นี้

หัดเดิน...ตาสอนหลาน ดูเครื่องมือสิ จุกอก พูดไม่ถูกเลย อ้อยหวานเห็นมากกว่านั้นค่ะ เห็นความรัก ความห่วงใย ทนุถนอม...


ได้แวะทานขนมครกของโปรดแทบทุกเช้า เอาสเต็กมาแลกก็ไม่ยอม


ตลาด..เป็นที่อ้อยหวานไม่เคยพลาด หยุด..จอด....STOPPPPPPP


อันนี้คงจะรู้จักกันดี


แต่อันนี้..


และนี่

"ขนมลา" ขอบคุณคุณป้าเล็กกับคุณภา ที่จริงอ้อยหวานรู้จักค่ะ แต่อยากรู้ว่ามีใครรู้จักบ้าง


ขนมพื้นบ้านค่ะ

"ขนมเจาะหู" ขอบคุณคุณภา แต่อีกอันกลมๆแบนๆยังไม่ทราบชื่อค่ะ

ได้ชื่อแล้วค่ะ "ขนมบ้า" ขอบคุณคุณอินเนียร์ค่ะ


ที่ถูกใจมากๆคือนี่ กลิ่นหอมกลบตลาดเลย


ไก่ย่างเครื่อง คิดว่าเรียกอย่างนี้นะค่ะ ผิดถูกอย่างไรขอผู้รู้แจ้งด้วยค่ะ

"ไก่กอและ" ขอบคุณคุณแจ้วค่ะ

อีกชื่อคือ "ไก่เทพา" ขอบคุณคุณอินเนียร์ค่ะ


โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

ความเห็น

ใช่ค่ะคุณอ๊อด เที่ยวกับจักรยานทำให้ได้รายละเอียด บางครั้งไม่ต้องไปไหนไกลเลย

ชอบบรรยากาศบ้านๆแบบนี้จังเลย ดูแล้วคิดถึงบ้าน สะตอห้อยเปนพวงน่ากินเชียวค่

ตอนพี่กลับบ้านเดือนที่แล้วมีสะตอเยอะมากค่ะ ได้กินจนหนำใจ

เป็นภาพที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของท้องถิ่นได้ดีมากๆเลย ทุกคนชอบโดยเฉพาะกลุ่มผู้คนที่จากบ้านไปไกลยิ่งโหยหาสิ่งที่จากมา คนเราเิดินทางข้ามพ้นช่วงของวัยไปเรื่อยๆตามกาลเวลาจนบางครั้งหลายๆสิ่งที่ผ่านมาก็เลือนลางในความทรงจำ ครั้นได้มาพานพบสิ่งเคยสัมผัสในอดีตทำให้รู้สึกได้ถึงความสุขในสิ่งที่หวนกลับมา อยากให้เพื่อนๆนำเสนอสิ่งเหล่านี้กันเยอะๆก่อนที่คนรุ่นหลังจะหาดูได้ในพิพิธพันธ์และไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นใช้ทำอะไร(อุปกรณ์ฝึกให้เด็กเดิน)

ขนมแบนๆกลมเขาเรียกว่าขนมบ้านะสาว่าให้บรรพชนผู้ล่วงลับใช้แทนเงิน ขนมเจาะหูบางที่เรียกขนมเพซัม สมัยก่อนนู้นไก่แบบนี้จะมีขายทีอ.เทพาจ.สงขลาเวลานั่งรถไฟผ่านสถานีรถไฟเทพาเขาจะร้องขายที่หน้าต่างรถไฟ เราเลยเรียกว่าไก่เทพา จำได้ว่าเคยอ่านหนังสือที่หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์เขียนสารคดีนำเที่ยวและตัวเองก็เคยเจอคือเจอไก่ที่ขายไม่หมดมาขายต่อในวันรุ่งขึ้นกินไม่ได้ ช่วงหลังจึงไม่มีคนซื้อทำให้ขายไม่ได้ไก่เทพาจึงหายไปนาน พอยุคหลังก็มีไก่แบบนี้ขายกันทั่วไปหลายที่ความอร่อยก็แตกต่างกันไป แต่ไกสมัยก่อนเป็นไก้บ้านเนื้อไม่ยุ่ยอย่างทุกวันนี้ครับ

ขอบคุณคุณอินเนียร์มากค่ะ
พี่ไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพตั้งแต่เล็กๆ แต่ก่อนปิดเทอมกลับบ้านต้องขึ้นรถไฟ จำได้ว่ามีของกินขายมากมายตามสถานีต่างๆ ไก่เทพาจะมีมากที่สถานีทุ่งสงและร่อนพิบูลย์ มาเจอที่ตลาดนี่ทำให้นึกถึงความหลัง

ขนมลา แผ่นใหญ่มาก ๆ เลยค่ะ เคยเห็นแต่แผ่นเล็ก ๆ เป็นเมืองที่น่าอยู่มาก ๆ :admire2:

วิถีชีวิตตามต่างจังหวัดนี่ดูมีชีวิตชีวากว่าตามเมืองใหญ่ ๆ อีกนะคะ ครอบครัวอบอุ่น สบาย ๆ ไม่มีมลพิษ ผู้คนจิตใจดี ไม่ต้องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน อยากให้ประเทศไทยเป็นเหมือนเมื่อหลายสิบปีก่อน หรืออาจถึงร้อยปี บางทีความเจริญก็ไม่ได้ดีไปซะทุกอย่างเน๊อะ  มีความเจริญเข้ามาเมื่อไหร่ความเสื่อมก็มักจะตามมาถ้าเราไม่หนักแน่นพอ ความสมดุลมันอยู่ตรงไหนน๊อ :depressed:

หน้า