..... วิธีการทำปลาร้าสำหรับคนไกลบ้าน .....

เขียนโดย mutita.co.uk เมื่อ 14 พฤศจิกายน, 2012 - 02:45
หมวดหมู่ของบล็อก: 
อาหาร




ปลาร้ากับคนไทยดูจะเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ น้ำพริก หรืออาหารสารพัดดูจะขาดความอร่อยไปเลยถ้าไม่ได้ปลาร้าเป็นตัวชูโรง แต่เมื่อไม่ได้อยู่ในเมืองไทยจะทำยังไง ใครที่หาซื้อได้ในร้านจีน ร้านเอเชียก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้าไม่มีและกังวลเรื่องความสะอาดจะทำเองได้มั้ย


นี่เลยจ๊าวิธีและขั้นตอนในการทำปลาร้า โดยใช้วัสดุที่เราหาซื้อได้ในต่างแดน น้องเจ้าของสูตรเป็นกุ๊กอยู่ประเทศสวีเดน โพสเอาไว้ให้ในเว็ปไซค์อาหารของนัท จะไปก๊อปมาก็เกรงใจเพราะรูปและสูตรไม่ใช่ของนัทเอง ก็เลยคิดว่าจะเหมาะกว่าที่จะโพสลิ้งค์ค่ะ


หากเพื่อนสมาชิกสนใจอยากลองทำไว้กินเองบ้าง คลิ๊กดูวิธีทำที่ลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ


http://www.food-lover.co.uk/phpBB3/viewtopic.php?f=32&t=246


ขอบคุณบ้านสวนพอเพียงและทุกๆคนที่แวะมาทักทายกันนะค่ะ

ความเห็น

ป้าเล็ก..อุบล

14 พฤศจิกายน, 2012 - 04:22

อือ...ทำง่ายนะ  แต่ว่าเค็มแน่ๆ   แล้วรำล่ะ  เอามาจากไหน  เมืองนอก

084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com

mutita.co.uk

14 พฤศจิกายน, 2012 - 04:37

น้องเค๊าเขียนไว้ว่าถ้าหารำไม่ได้ ให้ทำข้าวคั่วใส่แทนได้ค่ะคุณป้าเล็ก

rose1000

14 พฤศจิกายน, 2012 - 06:06

 สมัยเด็กๆ เห็นที่บ้านทำเอง วิธีแตกต่างกันนิดหน่อย คือ การทำปลา ล้างปลาให้สะอาด เป็นวิธีการทั่วๆ ไป จากนั้นเคล้าเกลือป่น สัดส่วนจำไม่ได้แต่ไม่เค็มอย่างสูตรที่คุณนัทนำมาลง และถ้าจะให้เนื้อปลาร้าออกเป็นสีชมพูให้ใช้เกลือสมุทร(ปลาเนื้อขาว) แต่ถ้าอยากให้เนื้อปลาเป็นสีคล้ายสีเดิมให้ใช้เกลือสินเธาว์ หมักปลากับเกลือไว้ 1 คืน แล้วนำออกผึ่งในวันรุ่งขึ้น นำไปผึ่งแดดให้หมาดๆ จากนั้นนำปลามาคลุกกับเช้าคั่ว ใช้ข้าวเหนียวคั่วให้เหลืองแล้วตำไม่ต้องละเอียดนัก ปลาร้าของภาคกลางจะไม่ใช้รำคั่วเหมือนสูตรของอีสาน เสร็จแล้วนำปลาอัดลงไห หรือภาชนะที่จะหมัก เน้นว่าเป็นการอัดให้แน่น แล้วปิดปากภาชนะให้แน่นไม่ให้อากาศเข้าได้ สาเหตุที่ต้องปิดให้แน่นเพราะกระบวนการหมัก (fermentation) ของปลาร้าเป็นแบบไม่ใช้ออกซิเจนนั่นเอง ถ้าอากาศเข้าได้จะทำให้กลิ่นปลาร้ารุนแรงกว่าที่ควรจะเป็นและเนื้อปลาร้าจะเละ ใช้ทอดลำบาก แต่ในเรื่องกลิ่นถ้าเป็นทางอีสานจะชอบกลิ่นแรงๆ มากกว่าภาคกลาง การหมักของภาคกลางจะหมักอย่างน้อย 6-12 เดือนครับ

nusita_angel

14 พฤศจิกายน, 2012 - 06:09

แล้วพอจะทราบมั้ยคะ ว่าทำปลาร้ายังงัยให้ไม่มีหนอนคะ นุสิเคยเห็นแม่ของเพื่อนทำดูขึ้นตอนก็สะอาดดี พอวันที่จะเอาออกมากิน หนอนตรึมเลย

rose1000

14 พฤศจิกายน, 2012 - 06:23

 ปลาร้ามีหนอน อาจเป็นคำพูดที่กระเซ้ากัน หรือในแง่ลบหน่อยก็เป็นการเสียดสี ดูถูก ว่าปลาร้าไม่น่ากิน ซึ่งอันที่จริงกระบวนการหมักปลาร้าแบบที่ผมอธิบายไป จะเห็นว่าไม่มีทางไหนที่แมลงวันจะลงไปวางไข่ให้เกิดตัวหนอนได้ เนื่องจากถูกอัดแน่นในภาชนะหมัก และต้องปิดให้สนิทกันอากาศเข้าอย่างที่บอก จากประสบการณ์ในอดีตหนอนจะเกิดได้เฉพาะปากภาชนะหมักเท่านั้น คือสมัยก่อนการอัดปากภาชนะหมักซึ่งใช้ไหซอง(รู้จักไหม) จะใช้กาบไผ่ตัดปิดด้านบนปากไห แล้วขัดด้วยไม้ไผ่แบนๆชิ้นเล็กๆ ให้แน่นหนา พอหมักไปได้สักระยะหนึ่งจะเกิดน้ำหมักปลาขึ้นในไหและขึ้นมาสู่ปากไหเหนือสิ่งที่เราปืดไว้ แล้วแมลงวันก็มาตอมและวางไข่ ตอนนี้นี่เองที่เราจะพบหนอนเกิดขึ้นบนปากไหปลาร้า แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะสามารถชอนไชลงในไหได้ ไม่มีทางเนื่องถูกปิดแน่นหนาเป็นอย่างดี และหนอนที่อยู่ปากไห คนโบราณก็มีวิธีกำจัด ใช้ใบหนอนตายอยากวางไว้บนปากไห หนอนก็ตายหมด หรือถ้าไม่กำจัดก็ไม่แปลกอะไร เพราะอย่างที่บอก มันลงไปในไหไม่ได้

mutita.co.uk

14 พฤศจิกายน, 2012 - 06:38

ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะคุณโรสละเอียดเพิ่มเติมมากขึ้นถ้าเราจะทำกุ้งจ่อมใช้วิธีการเดียวกันรึเปล่า และสามารถใช้กุ้งแชบ๊วยทำได้รึเปล่าค๊ะ

mutita.co.uk

14 พฤศจิกายน, 2012 - 06:36

น่ากลัวมากเลยคุณนุสิ เป็นนัททำไหแตกแน่ถ้าเจอ ฮ่าๆ

mutita.co.uk

14 พฤศจิกายน, 2012 - 06:34

ขอบคุณคุณโรสมากๆเลยอธิบายขั้นตอนให้ละเอียดแบบนี้ จะได้ทำตามได้ง่ายๆ นัทไม่แน่ใจว่าเกลือแบบที่คุณโรสบอกจะซื้อที่โปรตุเกสมีรึเปล่า เท่าที่เห็นมีแต่เกลือที่เค๊าขายในขวด แต่ไม่น่าอาจหาซื้อได้ในร้านขายของเพื่อสุขภาพ ข้าวเหนียวนัทก็คงหาซื้อไม่ได้ ถ้าใช้ข้าวธรรมดาแทนจะใช้ได้รึเปล่าค๊ะ

rose1000

15 พฤศจิกายน, 2012 - 20:09

 ไม่มีข้าวเหนียว ก็ใช้ข้างเจ้าได้ครับ แต่กลิ่นจะหอมสู้ข้าวเหนียวไม่ได้

Tui

14 พฤศจิกายน, 2012 - 08:33

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ อะไรหมักได้ ใช้เองต้องทำครับ ได้กะปิ ปล้าร้าแล้ว เหลือน้ำปลาครับคุณนัท

หน้า