พ่อกับแม่ มีคนเดียวในโลก

หมวดหมู่ของบล็อก: 

         ช่วงนี้มีเวลาว่าง ตื่นเช้ามาทำอะไรสบาย ๆชีวิตไม่ต้องเร่งรีบ 

        ยางพาราก็หยุดกรีดแล้ว วันหยุดเสาร์อาทิตย์จะแกะขี้ยางขาย

                    ต้นประดู่ห่างจากสวนไม่มากนัก

วันไหนว่าง จะปั่นจักยานมาเก็บเม็ดประดู่ ไปเพาะไว้ หน้าฝนค่อยเอาไปปลูกในสวนป่า

               คนผ่านไปมาก็มองว่าเก็บอะไร บางคนสงสัยก็จอดรถลงมาถาม รู้ว่าเราทำอะไรบางคนก็ยิ้ม ๆ บางคนก็ทำหน้าแบบบอกไม่ถูก แต่ก็ไม่สนใจอะไร เพราะเมื่อก่อนเราก็เคยเป็น คนเราต่างจิตต่างใจ

เก็บเสร็จก็เดินดูต้นไม้ที่ปลูกไว้ตามข้างถนน ปลูกตาล ได้แนวคิดจากท่านดาบวิชัย

       ต้นตาลอายุ 2 ปี ทนแล้ง ปลูกไปหลายร้อยต้นเห็นแล้วชื่นใจ

             นี่ก็มะม่วง ปลูกไปหลายร้อยเม็ดเหมือนกัน

               ปีกลายเดินดูเห็นเป็นร้อยต้น

                       ปีนี้ต้นมะม่วงตายไปเกือบครึ่ง

 

           ต้นตาลหลายต้นใบมีรอยตัด น่าจะเกิดจากใบตัดหญ้าที่ เจ้า่หน้าที่ การทางหลวงมาตัดหญ้าริมถนน ถ้าวันไหนมาเจอกก็จะบอกว่า ระวังต้นไม้หน่อยนะ

        ต้นตาลโดนตัดก็ขึ้นมาใหม่ แต่สำหรับมะม่วง ตายไปเลย

        เดินไปเห็นต้นไม้ที่เราปลูก มันชื่นใจ ดีใจอย่างบอกไม่ถูก

  แถวบ้านแดงปลูกยางพารากันเยอะ ต้นไม้ธรรมชาติโดนตัดไปเกือบหมด

           ต้นไม้ตามข้างถนนโดนตัดไปทำฟืนอบยางเกือบหมด

ได้แต่หวังว่า ต้นตาลที่เราปลูก กิ่งใบที่ร่วงลงมา คงพอได้ให้คนแถวนี้เก็บไปทำฟืนอบยางได้

          บางวันมาทำงาน ก็มีขนม มีข้าวของที่ซื้อมาแล้วเกินความจำเป็นของเรา  แจกเด็ก แจกคนแก่ การแจกขนม แจกตุ๊กตา แจกของเล่น ตาเวทย์เป็นคนคิด ให้ติดรถไว้ เอาไว้แจกเด็ก ๆ

            ช่วงนี้อากาศหนาว พ่อแดงจะก่อไฟทุกเย็น กินข้าวเย็นเสร็จ ลุงป้าน้าอาบ้านใกล้ ๆกันก็มานั่งคุยกัน ประมาณ 2 ทุ่มก็แยกย้ายกันไปนอน

                    บ่อยครั้งที่ชวนกันกินข้าวเย็น

                      บ้านใครมีกับข้าวอะไรก็เอามากินด้วยกัน

             กินหลายคนแบบนี้กับข้าวธรรมดาก็อร่อย

                             ผักก็ผักบ้าน ๆ

                    พ่อแดงเอายาดองมาเป๊กด้วย 1 ขวด

                              น้องแพรก็มาด้วย

  ไม่นานนักคุณยายนางก็หิ้วน้ำหมักมาเพิ่มอีก แถมสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่าง

ไม่นานนัก เสียงคุย เสียงหัวเราะของฝ่ายผู้สูงวัยหญิงก็ดังกลบเสียง ผู้สูงวัยฝ่ายชาย

      คุณยายนาง เป็นคนร่าเริ่ง สนุกสนาน ร้องหมอลำก็เป็น

    เมื่อได้ที่ คนกินข้าวก็กินแค่อิ่ม เหลือเพียง 4 ผู้ยิ่งใหญ่ของบ้าน

         คุณตาน้องแพร ตาเวทย์ แอบหนีไปนอน เหลือแต่ลุงกับพ่อของแดง ต้องนั่งใกล้วง คอยบริการท่านหญิง อยากได้อะไรก็แค่บอก บริการเต็มที่

      ท่านแม่หญิงสั่ง ไปถอยรถมาเปิดหมอลำหน่อย พ่อก็รีบปฏิบัติ

           ยกไปหลายแก้ว ยายนางก็เริ่มสวมบทหมอลำ

       แดงโชคดีที่ได้ทำงานใกล้บ้าน ได้อยู่กับครอบครัว พ่อแม่

            แม่แดงใส่เสื้อข้างในสีแดง ปีนี้ขึ้นทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแล้ว ส่วนพ่ออายุ 63 วันนี้ได้มานั่งมองพ่อแม่ เพิ่งรู้สึกว่าแม่แก่มากแล้วตอนแม่บอกว่า แจ้งขึ้นทะเบียนผู้สุงอายุให้แม่ด้วยนะ

ได้แต่ยืนมองอยู่ห่าง ๆ มีความสุขเหลือเกิน นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เห็นภาพแบบนี้

 

                                                             โปรดติดตามตอนต่อไป.........

ความเห็น

  ชื่นใจ ปลื้มใจ เสียเหลือเกิน ครับคุณแดง


  ผมกำพร้าพ่อและแม่มาเกือบ 20 ปีแล้วครับ อดยิ้มให้กับบรรยากาศยามรินน้ำหมักกับแม่หญิงไม่ได้

 การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ

เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกสนุกและอบอุ่นตามไปด้วยค่ะ

ติดตามอยู่แตไม่ได้เขียนความรู้สึก บรรยากาศอย่างนี้แหละที่กำลังหายไปและอีกหลายๆๆคนถวิลหาแต่สายไปแล้ว กรุงเทพเป็นอนาคตของต่างจังหวัด เดี๋ยวนี้ตามหัวเมืองก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว กระแสบริโภครุนแรงเกินกว่าจะต้านจริงๆ

สนุกไป ด้วยพี่แดง

เห็นภาพแบบนี้แล้วมีความสุขจังเลย

น้องแพรเป็นสาวสวยแล้วนี่นา อิอิ

""

 

อ่านแล้วคิดฮอดบ้านครับพี่แดง บรรยากาศแบบนี้ไม่เห็นนานแล้วครับก่อไฟผิงนั่งคุยกันครับ

ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว


บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร

สวัสดีค่ะ คุณแดง คุณเวทย์ - ช่างเป็นมื้ออาหารที่น่ารัก และอบอุ่นมากๆเลยค่ะ สังคมเมืองไม่มีชีวิตแบบนี้ให้เห็นมากนัก เพราะต่างคนต่างอยู่ / รูปที่คุณแดงนำมาเล่าสู้กันฟัง ขอชืนชมจากใจจริง ซาบซึ้งมากๆๆ ขอบคุณนะ ที่นำมาแบ่งปันกัน Laughing

ชีวิตที่เรียบง่ายกับความพอใจในสิ่งที่มี

อ่านบล๊อคพี่แดงทีไร มีความสุขทุกที ขอบคุณที่นำเรื่องราวดีๆมาแบ่งปันนะคะLaughing

เป็นชีวิตที่มีความสุขมากครับ

หน้า