สะพาน

สวัสดีค่ะเพื่อนสมาชิกทุกท่าน  เรื่องที่กำลังจะเขียนต่อไปนี้เป็นครั้งแรกของการเขียนบล๊อก หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ที่เริ่มต้นจาก "สะพาน" เพราะว่าเวบบ้านสวนพอเพียงแห่งนี้เป็นสะพานที่เชื่อมดิฉันเข้าสู่โลกของการเกษตรอย่างแท้จริง เริ่มต้นจากการอ่านบล๊อกของคุณ

tumtum เรื่องดินแดนมหัศจจรย์ ที่แชร์อยู่ในเวบบ้านสวนพอเพียงเมื่อ 4 ปีทีแล้ว(ซึ่งทราบทีหลังว่า บทความดั้งเดิมเขียนขึ้นที่เวบอื่น) แต่อย่างไรก็ตาม  นั้นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Deejang รู้จักเวบนี้ ซึ่งขอบคุณผู้สร้างเวบไซต์นี้ ที่เปิดโอกาสให้ความคิดฝัน และการทำเกษตร ได้มีพื้นที่ของตัวเอง

สะพาน # 1 : ถูกกล่าวไว้ในตอนหนึ่งของละคร "ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่อใจ" ว่า "

“สะพานมันเหมือนชีวิตคนเรา คนอื่นๆ ก็เลือกที่จะมาอยู่กับเรา มาดู มาชื่นชม มาจ้องมองในยามที่ชีวิตเราสวยงาม แต่ในยามที่ชีวิตเราเป็นแค่ตอม่อ เป็นแค่เหล็ก แค่ปูนที่ยังไม่สวยงามล่ะ มันมีไม่กี่คนที่จะสนใจมอง หรืออยากอยู่ตรงนั้น แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของคนที่จะไม่มอง ไม่สนใจ แล้วมันก็ไม่ใช่ความผิดของสะพานด้วยไม่ใช่เหรอ”

สะพาน # 2 : จากเรื่องเดียวกัน "คุณค่าของสะพาน คือ การที่มันทอดข้ามอุปสรรคไป พาคนที่เดินทางจากฝั่งนี้ไปยังอีกฝั่งได้ คนข้างสะพานมองคุณค่าของสะพานแค่เป็นวิวที่สวยงาม แต่คนที่อยู่บนสะพานมองคุณค่าของสะพานเป็นทางที่พาเขากลับบ้าน พาไปหาคนที่เขาอยากไปหา อยากไปเจอได้... คุณค่าอยู่ที่สายตาของแต่ละคน ที่สำคัญคืออย่าเอาสายตาคนอื่นมากำหนดคุณค่าของเราก็พอ"

สะพาน # 3 : สะพาน ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่  ทำจากวัสดุอะไร ไม่ว่าจะเป็น ไม้ ปูน เหล็ก เชือก หรืออื่นๆ  ก็มีคุณค่าเชื่อมโยง ผู้คน สังคม สรรพสัตว์ อยากอีกฝั่งให้ไปสู่อีกฝั่ง เปิดโอกาสให้เราได้ทำความรู้จัก อะไรก็ตามที่อยู่อีกฝากฝั่งหนึ่ง ไม่ว่าจะมีคนมองเห็นคุณค่าของสะพานหรือไม่ แต่ก็ปฏิเสธควาจริงไปไม่ได้ ว่าสะพาน มันมีอยู่จริง มันคงมีทั้งคนที่เห็นคุณค่าและคนที่ไม่ได้ให้ความสำคัญ ซึ่งมันก็ไม่ใช่ความผิดของสะพาน

แต่ ณ วันนี้ บ้านสวนพอเพียงได้ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อม Deejang เข้าสู่โลกของเกษตรได้สำเร็จแล้ว

จากแรงบันดาลใจ สู่การปลูกป่า # 1 : จากผืนดินรกร้าง ว่างเปล่าที่ในอดีต เจ้าของเดิมปลูกอ้อยมานานปี พลิกฟื้นสู่การปลูกต้นไม้

ในวันที่เริ่มปลูกต้นไม้ เชื่อว่าหลายคนคงเคยประสบพอเจอเช่นที่ดิฉันเจอ คือคำถามของคนที่เรารู้จัก คนที่ผ่านไปมา ว่าปลูกต้นไม้แล้วเมื่อไหร่จะได้ใช้ประโยชน์ คนปลูกมิแก่ ไปก่อนหรือ  ปลูกต้นไม้ไปแล้ว จะเอาที่ดินไหนทำมาหากิน ......

จากแรงบันดาลใจ สู่การปลูกป่า # 2 :  จากรูปด้านล่างนี้คือภาพ ป่าปลูก ต้นไม้มีอายุ 3 ปี แล้ว ในช่วงเริ่มต้นของการแบ่งที่ดินบางส่วนปลูกต้นไม้

เราก็ยังตอบคนอื่น หรือแม้กระทั่งตนเองไม่ได้ดีนักว่าปลูกป่าไปทำไม รู้ว่ามันดีต่อสิ่งแวดล้อม เป็นมรดกให้ลูกหลาน หรือเป็นทรัพย์สินให้เราเมื่อตอนเกษียณ หรือรู้ว่ามันดีที่ใช้สร้างที่อยู่อาศัย ใช้สอย ใช้กิน แต่มันก็ตั้งหลายปีกว่ามันจะได้ประโยชน์ ณ ตอนนั้นตอบได้แค่นั้น ดูเป็นอะไรที่เพ้อฝัน จับต้องไม่ได้ในตอนนั้น เวลาผ่านมา 3 ปี ในวันที่เราเริ่มปลูกผักหวานป่า ปลูกพริกไท ปลูกถั่วดาวอินคา ปลูกเห็ดป่า เลี้ยงมดแดง  สารพัดสิ่งที่อยากทำ

มันรู้แจ้งได้ใน ณ นาทีนั้น ว่าสิ่งที่อยากทำต่อไปจะเป็นไปได้ยากเหลือเกินถ้าขาดซึ่งต้นไม้  จริงอยู่หากเรามีเงินมากพอ เราสามารถซื้อเสาปูน เพื่อเป็นหลักให้ต้นพริกไทย ต้นถั่วดาวอินคา แต่มองในมุมกลับกัน ถ้าเราไม่ต้องซื้อเลย มันก็ดีกว่ามิใช่หรือ เราวางแผนว่าจะปลูกพริกไทยและถั่วดาวอินคา 1,000 ต้น ถ้าซื้อเสาปูน เสาละ 100 บาท (100x1,000 ) = 100,000 บาท หากเราไม่ได้ปลูกต้นไม้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ในปีนี้เราต้องมีเงิน 100,000 บาทเพื่อการลงทุน แต่เพราะเรามีต้นไม้ เราถึงประหยัดเงินไปได้ 100,0001 บาท นี่คือผลตอบแทนของต้นไม้อายุ 3 ปี

นอกจากนั้น สิ่งที่แม้มีเงินก็ซื้อไม่ได้นั้นคือ สภาพแวดล้อมของป่าที่เหมาะกับการปลูก เห็ดระโงก ผักหวานป่า และเลี้ยงมดแดง โครงการเหล่านี้ได้เริ่มต้นทดลองแล้วในปีนี้ และขยายเพิ่มเติมเต็มพื้นที่ในปีหน้า

ทดลองปลูกถั่วดาวอินคากับต้นไม้

ผักหวานป่า กับป่าปลูก ทำหน้าที่ต้นไม้พี่เลี้ยง

จากแรงบันดาลใจ ที่ได้จากสะพานแห่งนี้ นำไปสู่การทดลองทำจริงผ่านการลองผิดลองถูก ศึกษา เรียนรู้ ประยุกต์ใช้กับสวนของ Deejang ที่ตั้งชื่อตาม ความใฝ่ฝันว่า "ไร่สวนฝัน" หรือ " Dream Forest Farm"  หากเพื่อนๆ ท่านใด อยากทราบความเป็นไปบางส่วน สามารถเข้าไปได้ที่ https://www.facebook.com/dreamforestfarm  

แล้วพบกันในตอนต่อไป กับแนวคิดการทำเกษตรแบบผสมผสาน ในแบบฉบับของไร่สวนฝัน ดินแดนที่ความฝันได้ออกเดินทาง และเป็นจริงได้

Credit รูปสะพาน :

www.thaiskyvision.com-
http://pantip.com/topic/30758241