ทำถังหมัก

หมวดหมู่ของบล็อก: 

     หลายวันมานี่ มีปัญหาโทรศัพท์ เคเบิ้ลขาด กว่าจะรู้สาเหตุ กว่าจะต่อสายได้ก็กินเวลาเป็นอาทิตย์ แต่ก็แปลก สายขาดไป 1 เส้น มีสัญาณเข้า 1 เส้น ต่อเน็ตได้ แต่รับสายหรือโทรออกไม่ได้

     การทำน้ำหมักชีวภาพ ตอนนี้หาเปลือกไข่ได้เยอะ หาได้ทุกวัน หมักใส่ถัง 120 ลิตร สักสองอาทิตย์ก็เต็มถัง ที่เต็มคือเปลือกไข่ ส่วนน้ำนั้นน้อย เลยทำให้ความหวานอ่อนไป น้ำหมักก็เลยมีกลิ่น ต้องตักน้ำออกไปผสมกับน้ำตาลอีก

    เลยคิดว่า ถังขนาด 120 ลิตร น่าจะเล็กไป หาถังใหญ่กว่านี้ดีกว่า มองไปมองมา ก็ได้ถัง 200 ลิตร เอามาเปิดฝาด้านบน ตามรูป

     ขีดเส้นปากถัง แล้วใช้สว่านเจาะเป็นแถวใกล้ๆกัน พอแหย่ใบเลื่อยลงไปได้


 

ใช้ใบเลื่อยเหล็กเลื่อย โดยใช้มือจับใบเลื่อย

ก่อนหน้านี้ ต้องใช้ใบเลื่อยหลายใบ เพราะเลื่อยไป หักไป ตอนเลื่อยใจไม่อยู่ที่เลื่อย

แต่ตอนนี้ใบเลื่อยใบเดียวยังเหลือ เพราะยังไม่หัก

ปากถังไม่กว้าง เพราะจะใช้ประโยชน์จากส่วนที่เหลือได้

ด้านบนเจาะรู 3 รู ที่ฝา และที่ตัวถัง

รูที่ฝา

3 รู ใช้ทำบานพับ ด้านใกล้ตัว ตรงกลางเป็นมือจับ เปิด - ปิดฝาถัง

ห่วงซ้าย-ขวา เป็นตัวบังคับไม่ให้ฝาถังเข้าใน

ขยายใหญ่


บานพับ

ลวดที่ใช้ก็ได้จาก ลวนแขวนถ้วยยาง ต้นที่ไม่ได้กรีด

เปิดฝาดู

ใส่น้ำตาล น้ำ หัวเชื้อ วัตถุดิบ

(วันนี้มีเมล็ดฟักทอง เลยผสมลงไปด้วย)

วัตถุดิบ(หลัก) แต่ละวัน เกือบเต็มถังขนาด 8 ลิตร

ปิดฝากันแมลงวัน ตั้งไว้ในสวนเลยครับ ไม่ต้องขนไกล

ถังนี้ น้ำหมัก ปสว รดโคนใผ่ ฝนตกๆ ไม่ต้องผสมน้ำ

ชานอ้อย เอาไปตัดเป็นชิ้นเล็กๆ จุ่มในน้ำหมัก แล้วใส่กระสอบปุ๋ยหมักไว้โคนไม้




ความเห็น

แต่เรื่องผม..นี่เสี่ยงไม่ได้..ผมเองก็ผมบางอยู่แล้ว..กลัวไปทำให้พวกเค้ามีปัญหา..ตายแน่เลย (คุณนายกะคุณหนูเป็นพวกขี้แพ้ด้วย)...ซือเฮีย..ผมสังเกตุนะ..หมักทุกครั้งจะมีราสีข้าวเป็นฝ้าเต็มไปหมด..ไม่ใช่ราดำนะ..ดูน่ากลัวเชียว

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

ฝ้าขาวๆที่ลอยอยู่เหนือน้ำหมักคือ film yeast เป็นยีสต์ที่เกิดขึ้นในการหมัก หากซือตี๋เคยล้วงใหผักกาดดอง สมัยก่อน ก็จะเจอ ยีสต์พวกนี้เช่นกันครับ เชื้อพวกนี้ไม่มีโทษครับ

สำหรับเรื่องเส้นผม ผมก็มีผมน้อยเหมือนกันครับ มะกรูดคงช่วยผมได้ไม่มากนัก แต่พวกคุณนาย คุณหนูที่บ้านผมเขาก็เอาไปใช้ เป็นครั้งคราว ก็ ไม่มีปัญหาอะไร

คำแนะนำคือ อย่าเอาไปสระผม แต่ใช้ละเลงตัว แทนสบู่ก็ได้ครับ พอเปิดน้ำอุ่น กลิ่นมะกรูดก็จะหอมฟุ้งไปทั้งห้องน้ำ เหมือนใน Spa เลยนะครับ

นำเสนอเรื่องราวได้ดีเช่นเคย  สมแล้วที่เป็นคุณครู ขอคาราวะ  ๆ

ตอนนี้ผมไม่มีโรงเรียนสังกัดแล้วครับ เลยมาอยู่ในบ้านสวนฯของผู้ใหญ่โส

อยู่โรงเรียนใยเลยจะมีความสุขเท่าอยู่บ้านสวน พวกเรายังมีลุงพูนเป็นครูเสมอ

ในบ้านสวน มีผู้รู้เยอะดีครับ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ที่จริงเวลาผมเขียน อยากให้มีการ comment ด้วย เพราะสิ่งที่ผมรู้ ผมเขียน อาจจะไม่ทันสมัย หรือไม่ถูกก็ได้ครับ

ได้ความรู้อีกแล้ว  แล้วคงได้ใช้ความรู้นี้

พอดีผมไม่มีเครื่องมือช่าง ก็เลยต้องหาของที่พอมีอยู่มาลองดูครับ เอามใช้ได้หมด แม้กระทั่งมีดของคุณสายลมลอย มีอีกเรื่อง ที่อยากให้ชาวอาชีวะหรือเทคนิคช่วย คือ การกลึง พลาสติก แต่ว่าขอเวลาค้นหาก่อนครับ

ไม่เข้าใจ..ชานอ้อย

จุ่มแล้วหมักถัง   หรือ จุ่มแล้ว เอาไปไว้ใต้ต้นไม้

ฉันจะปลูก ผัก ให้ลูกทาน

เนื่องจากรูปติดพันอยู่ที่เดียวกัน ก็เลยเอามาลงให้ดู แต่อธิบายไม่ละเอียด ต้องขออภัยครับ

ชานอ้อยจากที่เขาบีบเอาน้ำอ้อยไปขายแล้ว ยังมีความหวานปนอยู่มาก ปกติ หากเอาไปใส่ในสวน ถ้าไม่โดนปลวกกินไปก่อน ก็จะสลายตัว แต่ก็นานหน่อย แต่ถ้าเราเอามาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่กระสอบปุ๋ย หรือถุงที่เขาใส่หอมหรือกระเทียม แล้วเอาไปจุ่มหรือแช่ในถังน้ำหมัก เหมือนๆกับทำกองปุ๋ยหมักแล้วเอาน้ำหมักมารดราดเพื่อให้กองปุ๋ยหมักเปื่อยเร็วขึ้น เมื่อยกถุงออกจากถังน้ำหมักแล้ว สงไว้ให้น้ำหยุด แล้วเอาไปวางไว้ในสวน ใต้โคนต้นไม้ใหญ่ๆ เช่น ต้นยาง ชานอ้อย ก็จะถูกย่อยสลายไปเองแล้วก็ยังอยู่ในถุง

หน้า