หาเรื่องราว(คิดว่า)ดีๆ มาให้ สมช. อ่านครับ

หมวดหมู่ของบล็อก: 

บทความของ นายแพทย์เปี่ยมโชค ชลิดาพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการบำบัด

http://www.asoke.info/09Communication/DharmaPublicize/Kid/k160/020.html

 

น้ำเต้าหู้กับสุขภาพ

http://www.watklaikangwon.org/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&Category=watklaikangwonorg&thispage=2&No=227732

เพิ่มเติม

นมวัว และ โปรตีนแคสโซมอร์ฟิน ( casomorphin ) ที่มีอยู่ในนมวัวด้วยครับ

http://www.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=autistic&id=857

ความเห็น

ตอนนี้คนที่รู้เริ่มออกมาเปิดเผยความรู้ ความจริงของถั่วเหลือง ก็ฟังๆเอาไว้ ครับ

FB ผมไม่ค่อยได้เปิด เล่นก็ยังไม่ค่อยเป็นครับ ได้แต่อ่านที่เขาเขียนกัน

FBแรกๆก็เล่นไม่ค่อยเป็นค่ะ ต้องเล่นบ่อยๆๆค่ะเด่วก็เก่งเอง


 

 

จะได้ระวังในเรื่องการกินให้มากขึ้น  แก่แล้วกลัวๆอยู่เหมือนกัน

ที่แน่นอนก็คือ You are what you eat แน่นอนครับ

ก่อนอื่น หนูขอขอบคุณลุงพูนมากๆคะ ที่นำความรู้มาเผยแพร่

โดยส่วนตัวหนู ยังเชื่อว่า ถั่วเหลืองมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก ทั้งในแง่ที่เป็นแหล่งโปรตีน และมี กรดไขมันจำเป็น ตัว Omega6 ในปริมาณที่สูงมาก

อย่างไรก็ตาม ความรู้ที่คนทั้วไปทั้งหลาย ยังไม่ทราบ ก็คือ ถั่วเมล็ดทุกชนิด เมื่อเก็บเกี่ยวแล้ว ต้องบริโภคทันทีคะ พราะถ้าเก็บไว้ นานเกิน7วันเท่านั้น ก็จะมีปริมาณ Alfa Toxin มากเกินขีดปลอดภัยแล้ว ซึ่ง ข้อนี้ ก็หมายความว่า เราควรบริโภคเมล็ดถั่วที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว ไม่เกินสัปดาห์เท่านี้น  

 

 

 

จริงๆแล้วผมก็ไม่มีความรู้ในเรื่องนี้สักเท่าไหร่ครับ เพียงแต่เห็นว่าอาจจะมีประโยชนน์บ้าง ก็เลยนำมาให้ได้อ่านกันครับ

ของต่างๆในโลกนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงไปเสมอๆ สมัยหนึ่งว่าดี แต่ต่อมาก็อาจจะบอกว่าไม่ดี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความรู้ที่เกิดขึ้นใหม่ เพียงพอที่จะทำให้คนเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน

ความรู้บางอย่าง คนไม่ค่อยรู้กันเช่นที่คุณแก้วบอกว่า หากเก็บไว้นานเกิน 7 วันแล้ปริมาณ Alfa Toxin มากเกินขีดความปลอดภัย (ผมก็ไม่เคยรู้มาก่อนครับ)

คือโดยส่วนตัว หนุเชื่อว่าถั่ว ยังมีประโยชน์มากๆ แต่ปริมาณ Alfa Toxin น่าจะเป็นตัวการร้าย ที่เป็นสารก่อมะเร็งคะ 

และเนื่องจาก สาร Alfa Toxin นี้ เป็นสารที่ความร้อนทำลายให้ตายไม่ได้ มันจึงน่ากลัวอย่างยิ่ง

แก้วอ่านบทความที่แนบมานี้ แล้ว ก็ยังเข้าใจเหมือนเดิม เนื่องจากเจ้าของบทความ ก็ไม่ได้สรุปว่า ตัวต้นเหตุที่มาจากถั่วเหลืองนั้น มาจากสารอะไรในเมล็ดถั่วกันแน่  

แค่ขอมาแชร์ความเห็นด้วยนะคะลุง หนูก็ไม่ได้รู้อะไรมากเหมือนกันคะ 

 

คุณลุงพูน ขอบคุณมาสำหรับข้อมูลความรู้ค่ะ รู้แล้วจะได้เอามาปรับใช้กับตัวเอง ปรับใช้ไวก็ได้กำไรตรงเวลาที่มากกว่าปรับใช้ช้า


มีหลายเรื่องที่ต้องอาศัยเวลาและจำนวนผลของการปฏิบัติที่เกิดขึ้นเป็นตัวยืนยัน


ส่วนตัวเองก็โชคดีบ้างที่มีโอกาสเรียนรู้และทำความเข้าใจอยู่บ้างทั้งในเรื่องธรรมชาติบำบัดและทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน


ขอบคุณมากๆอีกครั้งค่ะ

ขอบคุณจริงๆค่ะ ลุงพูน

เพิ่งรู้จริงๆค่ะ เข้าใจ(ตามตำรา)

ว่าถั่วทุกชนิดมีประโยชน์

ส่วนโทษเกิดจาก สาร

หรือสิ่งแปลกปลอมที่ปน

หรือเกิดจากการเก็บ ถั่ว

นี่ล่ะน้า ครูบาอาจารย์

ท่านถึงย้ำนักหนา ว่า

อย่าถือยึดเอาตำรา

เล่มเดียว เป็นสรณ

ลูกอิสานกันดารแท้ แต่บ่อเหี่ยวทางน้ำใจเด้อ
หากแหม่นใหลหลั่งรินปานฝนแต่เมืองฟ้า
มาเด้อพวกพี่น้อง สานสัมพันธ์ให้มันแก่น
ให้ยืนยาวแนบแน่นพอปานปั้นก้อนข้าวเหนียว เด้อพี่น้อง

"ในน้ำนมวัวมีฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติมโต ( growth hormone ) ของวัวและสารอาหารต่าง ๆ ที่ช่วยการเจิรญเติบโตของวัว แต่จะดีอย่างไรก็ตาม ลูกวัวเองก็กินนมแค่ปีเดียว ไม่ได้กิน 5 ปี 10 ปี คิดดูว่า ฮอร์โมนและสารอาหารเหล่านั้นกระตุ้นร่างกายของเด็ก ๆ ขนาดไหน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง กลายเป็นคนที่ร่างกายใหญ่ผิดจากพ่อแม่อย่างชัดแจน
ถ้าลองมามองเชิงลบ นี่คือการทำ GMO ในเด็กโดยใช้ฮอร์โมนสัตว์ พูดให้ชัด ๆ นี่คือการตัดต่อพันธุกรรมหรือเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมเด็ก โดยใช้ฮอร์โมนสัตว์เป็นตัวกระทำ อย่าเพิ่งพูดว่าใช่ หรือไม่ใช่ เก็บไปคิดดู ........."

เห็นด้วยค่ะ เพราะหลานชายตอนนี้อายุสิบสามปี เป็นเด็กที่ชอบกินนมมาแต่ไหนแต่ไร ประจวบเหมาะกับโครงการนมโรงเรียนของรัฐบาล ที่แจกนมวันละถุง

แต่หลานมักกลับบ้านมาบอกเราเสมอว่าเขากินไม่พอ ตั้งแต่อนุบาลมาแล้วเขาอาสาดื่มนมในส่วนของเพื่อนให้แล้วเอาถุงไปส่งครู(เพื่อยืนยันว่าทุกคนดื่มนมหมด)

เป็นแบบนี้มาเรื่อยจนเขาจบชั้นประถม พอเข้าเรียนมัธยม ก็ยังดื่มนม ทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน ตอนนี้เขาอยู่ ม.2 อายุสิบสาม

สูง 178 ซม. หนัก 85 ซึ่งรูปร่างผิดกับพ่อแม่และญาติ ๆ อย่างสิ้นเชิง ในส่วนตัวคิดว่าเป็นข้อดี แต่พออ่าน ในแง่ลบ ชักไม่แน่ใจ

หน้า