บล็อกของ วิศิษฐ์

เดี๋ยวนี้ที่สวนมีแขกมาเพิ่มขึ้น จากเมื่อก่อนผมมาคนเดียว ปลูกอะไรก็ไม่ค่อยมีแรงจูงใจ ขุดไปแล้วเหนื่อยทิ้งงานแล้วหนี ต่างจากที่เปลี่ยนแนวคิด เปลี่ยนพฤติกรรมตนเอง จึงรู้ว่าสิ่งที่ทำมันส่งผลดีต่อตนเองและครอบครัว เมื่อเราทำเราได้ คนในครอบครัวเข้าใจ และเป็นผู้ช่วยที่ดี จากเดิมซื้อผักกินตลอด เปลี่ยนมาเป็นผู้ปลูก มีมากมายก็แบ่งปันคนรอบข้าง มีสุขกัการให้ สนุกดีครับ ฮ่า ๆๆๆ


แม่น้องโฟกัสเดี๋ยวนี้กลายเป็นคนนำเที่ยวสวนไปแล้ว อิอิอิ..

ปลูกผักมามากมาย จนนับไม่ไหว ทำไปมาก ๆ ก็มีกินมากมาย ความอุดมสมบูรณ์ที่สร้างด้วยมือ แรงกายของคนในครอบครัว ทำในสิ่งที่คิดว่ายากในตอนที่จะเริ่มลงมือ แต่ถ้าวันที่เริ่มขุดหลุม เหนื่อยแล้วทิ้งจอบ หันหลังให้กับสิ่งที่ทำ ก็คงไม่มีวันนี้ ยิ่งมองดูผลงานตนเอง ก็ยิ่งมีความสุข ความสุขที่เราสร้างเองกับมือ ทำเองเหนื่อยเอง รู้คุณค่า สิ่งใดไหนเล่าจะสุขได้เท่าความสุขที่เราเปลี่ยนแนวคิด หันมามองพื้นฐานง่าย ๆ ทำเพื่อให้มีกิน กินเพื่ออยู่ แค่นี้ก็มีสุขใจแล้วครับ


มีกินมีใช้อย่างมากมาย...

บล็อกนี้เป็นบล็อกต่อเนื่องจาก กว่าจะเป็นเมล็ดข้าวสวย ๆ จาก 5 บล็อกที่ผ่านมานะครับ ผลของการทำนาปีนี้เน้นการทำแบบอินทรีย์ (ไม่ต้องทำอะไรเลย) หลังจากดำนาเสร็จ ดูนาไม่ให้ขาด (เป็นความคิดที่ผิด) ปรากฎว่าข้าวในนางามมาก ๆ (ปกติก็งามอยู่แล้ว) ให้ธรรมชาติดูแลกันเอง มีตัวห้ำตัวเบียนในนา อย่างมีสมดุลย์ อยู่กับปูนาอย่างสันติ แม้ปูจะเจาะคันนาบ้างให้รำคาญใจ ผลที่ได้ข้าวงามมาก ๆ โรคภัยไม่มีเลย เมื่องามมาก ๆ ต้นก็สูงใหญ่ ผลที่ได้ตามมาชมเลยครับ


ภาพเดิม ต้นข้าวตอนออกรวงครับ สูงมาก ๆ แล้วก็เป็นไปตามที่คาดไว้ ไม่มีเหลือแน่ ๆ

วันนี้มาสอนวิธีการดักปูนาที่มีในนาข้าวกันนะครับ ที่นาข้าวหลังจากปล่อยน้ำในนาข้าวออกจนหมด (แต่ยังพอมีเหลือ) เพราะปีนี้ฝนตกดีมาก ๆ เกินความจำเป็น ปูนาที่มีอยู่ก็เยอะมาก ๆ แต่ไม่เป็นอันตรายกับต้นข้าวนะครับแต่เป็นผลเสียต่อคันนาเพราะปูเจ้ากรรมพากันขุดรูกันทั่วคันนาเลย เมื่อมาอาศัยอยู่ก็ต้องตอบแทนด้วยการเป็นอาหารซะเลย ฮ่า ๆๆๆๆ ปูเพียบ อิอิอิ


วันนี้ได้ปูเยอะครับ...เพราะมีวิธีนะครับ ตามชมเลยครับ

หน้าหนาวเข้ามาเยือน ผลของการปลูกผักเมื่อต้นฝนทำให้เกิดการเรียนรู้หลาย ๆ อย่างว่าควรจะปลูกผักชนิดใดอย่างไร ช่วงเวลาไหน เหมาะสมกับผักชนิดอะไร มาครั้งนี้เลยต้องวางแผนสักหน่อยครับ ต้องให้มีหมุนเวียนเก็บกินได้ตลอดอย่างต่อเนื่องไม่ให้ขาดตกบกพร่อง จะได้มีอยู่มีกินไม่อดอยากนะครับ อิอิอิ


อากาศยามเช้า ๆ เย็นสบาย (หนาว) แต่ผมชอบหน้าหนาวที่สุด คนขี้ร้อนนะครับ แสงสีทองทาบผ่านใบกล้วยเช้า ๆ แบบนี้มีอะไร ๆ ให้เดินดูดีไม่น้อยเลยครับ

หลังจากที่ปลูก ๆ มันสาระพัดอย่างทำมาก็เยอะ และวันที่มีคนเห็นความบ้าของกิจกรรมที่ทำของสวนตัวเองก็เกิดขึ้น น้องสาวของแม่น้องโฟกัส เดี๋ยวนี้คุยเรื่องพอเพียงกันรู้เรื่อง จะปลูกนั้นนี่ ปลูกเองกินเอง แบ่งปันกันเสมอ วันนี้ก็เลยได้โอกาสหนีงาน (ปิดร้าน) ไปเที่ยวที่สวนเพื่อนร่วมอุดมการณ์นะครับ ไปดูซิว่ามีอะไรบ้าง


คันนาใหญ่เหมือนกันเลยครับ จากที่ปล่อยให้รก ๆ คอยตัดหญ้าก็เริ่มมีผักบ้างแล้วครับมีอะไรบ้างไปดูกันครับ

เช้าวันลอยกระทง แสงแหลมเล็ก ๆ ของลูกสาวดังขึ้นขณะที่พ่อกำลังนั่งดูข่าวน้ำท่วมเช่นเดิมเหมือนทุก ๆ วันซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วกับการติดตามข่าวสารเรื่องน้ำท่วม "พ่อจ๋าพาน้องโฟกัสไปเอาใบตองและต้นกล้วยไปทำกระทงคุณครูบอกค่ะพ่อ"  งานเข้าอีกแล้วเรา ก็ต้องไปนะซิครับ อากาศยามเช้าเย็นสบาย จึงได้ไปทำภารกิจหาวัสดุทำกระทงให้ลูกสาวจนได้ ดีที่สวนมีครบครับ อิอิอิ

มาถึงจักรยานปั่นน้ำตอนที่ 4 แล้วครับบล็อกนี้เป็นบทสรุปผลของการทำจักรยานปั่นน้ำนะครับ หลังจากที่ทดลองต่อมาหลายอย่างทั้งสายยางและท่อ PVC ก็ได้บทสรุปออกมาเป็นใช้จักรยานปั่นน้ำ บวกแอร์แวที่ช่วยผ่อนแรงให้การปั่นไม่หนักมากนัก แถมน้ำยังไหลแรงมาก ๆ จากที่ใช้สปริงเกอร์ 4 หัว (ทดลองแรงดันของแอร์แว) ทำให้ท่อหลุดเลยครับแรงดันน้ำที่มาจากแรงอัดของลมในท่อแอร์แวแรงมาก ๆ ผมจึงเพิ่มจำนวนหัวสปริงเกอร์ เป็น 10 หัว ก็ยังไหลแรงดีอยู่เลยครับ  ตามมาชมภาพพร้อมคำอธิบายการต่อแอร์แวเข้ากับจักรยานปั่นน้ำกันครับ


ย้ายสถานที่ตั้งจักรยานปั่นน้ำใหม่  แต่ตรงนี้ต้องเพิ่มความยาวของท่อดูน้ำให้ยาวกว่าเดิมจาก 12 เมตร เป็น 16 เมตรครับ เพราะน้ำที่ลึก ๆ อยู่ไกลกว่าที่เดิม