เขาตั้งข้อหาข้าพเจ้า ว่า บ้าาา .... & .. ระห่ำ
พอเห็นหัวข้อ นักกฎหมาย และบัณฑิตนิติศาสคร์ หลาย ๆ ท่าน คงสงสัยต่อข้อหา และปรารภว่า “อยู่ใน ป. อาญา รึ ป. แพ่ง .... น้า” ก็ขอเรียนว่า ไม่ต้องนึก หรือค้น ประมวลกฎหมาย ให้เสียเวลาเลยครับ
ข้อหาที่ว่า ไม่ใช่ข้อหาในกฎหมายลายลักษณ์อักษร แต่ เป็นข้อหาตามประเพณีปฏิบัติของสังคม แล้วจะเล่าให้ฟังครับ
..... เช้าวันนี้ ข้าพเจ้านำรถจักรยานยนต์ ออกไปเพื่อต่อทะเบียน ... ขณะก้นแหมะอยู่บนเบาะ มือบิดปลอกเร่ง จิตก็ให้หวนรำลึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อหลายเดือนก่อน แต่จะกี่เดือนจำไม่ได้แล้วครับผม เพราะในความรู้สึกของข้าพเจ้า เห็นว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร
สมุฏฐาน ของเหตุ เริ่มเมื่อตอนที่ข้าพเจ้ากลับไปบ้านที่นครศรีฯ ....
เนื่องจากเมื่อข้าพเจ้าต้องพเนจร ไปพำนักที่สุราษฎร์ฯ ก็ดี นครปฐม ก็ดี ข้าพเจ้ามีภาระต้องเข็นรถจักรยานยนต์ ที่มีอยู่ 3 คัน ขึ้นเก็บไว้ในบ้าน ครั้นกลับนครศรีฯ ก็ต้องเข็นออกมา เพื่อ Clear พื้นที่ ซึ่งปกติในระยะหลัง ๆ ประมาณ 30 ปี มานี่ ข้าพเจ้าใช้เป็นพื้นที่หลับนอน เนื่องจากข้าพเจ้าเลิกนอนบนเตียง และเบาะหนา
คืนนั้น หลังจากปฏิบัติกิจ ทบทวนกรรมที่ผ่านมาในช่วงกลางวัน และสงบจิต แล้ว
...... ก่อนกำหนดสติหลับ พิจารณาเห็นว่า จักรยานยนต์ที่มีอยู่ ไม่คุ้มค่าตามหลักเศรษฐศาสตร์ เพราะเจ้าของเขาแยกย้ายไปมีภาระหน้าที่ นอกจังหวัดหมดแล้ว มูลค่าก็เป็นลบโดยใช่เหตุ น่าจะเพิ่มมูลค่าโดยการนำไปใช้จะดีกว่า จริงอยู่ แม้แต่ละคนจะมีรถยนต์ใช้กันอยู่แล้ว แต่เหมาะจะใช้ยาว หากจะใช้สั้น จักรยานยนต์ น่าจะเหมาะกว่า ....
ตัดสินใจ .... อย่ากระนั้นเลย เอาขึ้นไปให้เขาใช้กัน ดีกว่า ขับไปคงสนุกดี จะได้ระลึกความเก่า ครั้งที่เคยขับ HONDA 125 C.C. ไปบ้านป้า ที่เชียงใหม่ เมื่อ 20 กว่าปีก่อน
งีบหลับ .... ตื่นขึ้น ประมาณ 02:30 น. ตามที่ตั้งใจไว้ จัดแจงแต่งกาย เตรียมของติดตัวเล็กน้อย (ไม่มีกระเป๋าเสื้อผ้า นะครับ) เปิดประตู เข็นจักรยานยนต์ สองคัน กลับเข้าไว้ในบ้าน เหลือไว้ 1 คัน สำหรับเป็นเพื่อนร่วมภารกิจเดินทาง สู่คอนฐม
ก็คันนี้แหละครับ
เก็บ รถเสร็จ ตรวจความเรียบร้อยในบ้าน ปิดประตู Lock
... ตรวจความเรียบร้อยนอกบ้าน ....
เข็ญ จักรยานยนต์ คันที่เลือกไว้ออกมานอกรั้วบ้าน ปิดประตูรั้ว Lock
.... สรวมวิญญาณ มอไซค์ รับจ้างเก่า ขึ้นคร่อม สตาร์ท เท้าตบเกียร์ บิดปลอกเร่ง จุดหมายปลายทาง นครปฐม ครับผม .... ไม่ส่งสัญญาณใด ๆ บอกใคร ๆ .... ไม่ใช่ต้องการสร้าง Surprise ใด ๆ หรอกนะครับ แต่ด้วยเพราะทราบดี ว่าหากบอกไป คงมีเสียงทัดทาน และหากข้าพเจ้าไม่ฟังตอนนั้น ก็จะต้องฟังเสียงโทรฯ ตลอดระยะทาง จนไม่มีสมาธิในการขับขี่แน่ ๆ
ถึง ละแม ... ยังไม่สาง ... เติมน้ำมันเพราะใช้ไปเกือบเกลี้ยงถัง ออกจากปั้มได้หน่อยเดียว ข้าพเจ้าลดไฟต่ำ เพราะกลัวสะท้อนกระจกเข้าตาคนขับ รถกระบะที่ขับ ช้า ๆ อยู่ข้างหน้า จึงมองผิวจราจรข้างหน้าได้ไม่ไกล รู้ตัวอีกที ถึง ....แล้ว .... !
ไม่ใช่คอนฐมนะครับ .... แต่เป็นท่อนไม้ ...! โตขนาดน่อง ยาวประมาณ 80 ซ.ม. จะหลบก็ไม่ทัน ตัดสินใจเล่นทับไปเลย กระดอนสูงไม่เบา ประคองรถมั่น .... !
ไม่ล้มครับ .... แต่ ... กะปิดี 2 ก.ก. ในถุงหน้าตะแกรง กระดอนลงไปกลิ้งโค่โร่ บนถนน จอดรถ ... เดินกลับไปเก็บ คาดว่าคงเละ ไปแย้ว .... หยิบถุงขึ้นมา โอ .... ไม่เป็นไร สภาพยังปกติ หิ้วกลับมาใส่ตะกร้าตามเดิม ออกรถ คิดในใจ ... “ดีนะนี่ .... ที่ไม่มีคนซ้อนท้าย ไม่งั้น ..... ฮึ ๆ ๆ”
.... ขับไป แวะไป .... สว่างแล้ว ..... ถึงทับสะแก .... เอาอีกแล้วครับท่าน ! เหตุสนุก ๆ เกิดอีกแล้วครับท่าน ....
ถนนในชุมชน เขาแยกเพิ่มช่องจราจร ด้านซ้ายไว้ 2 ช่อง ข้าพเจ้าเลือกใช้ช่องนี้ เพราะไม่อยากรบกวนยานที่ต้องการความเร็ว .... แล้วเหตุก็เกิด!
เบื้องหน้าข้าพเจ้า มีจักรยานยนต์ เล่นนำอยู่คันหนึ่ง มีคนซ้อนท้าย แบกไม่สอย ที่ทำด้วยลำไผ่ขนาดแขน ยาว 5 - 6 เมตร ข้าพเจ้าไม่ทราบว่ามีถนนแยกอยู่ข้างหน้า แต่ก็ระวังตามควร รถคันหน้าชะลอ .... ข้าพเจ้าคิดว่าเขาจะจอด จึงแถรถออกช่องขวา เพื่อแซง พอระยะรถเกือบตีคู่กัน รถคันหน้าเลี้ยวซ้าย คนซ้อนท้ายไม่เหลียวดูหลังเลย ไม้สอยที่เขาแบกมา แกว่งปลายออกมาขวางถนน ซึ่งข้าพเจ้า กำลังแซงขึ้นไปพอดี ข้าพเจ้า รีบก้มหลบด้วยสัญชาติญาณ .... แต่ไม่วาย ....
“โป้ก” .... เสียงไม้สอยกระทบหมวก .... ก็หมวกที่ท่านเห็นอยู่ในตะกร้า นั่นละครับ
ข้าพเจ้า มิได้ตกใจ ปาดรถเข้าจอดริมฟุตบาท ดับเครื่อง เดินย้อนไปดูรถคู่กรณี .... นู่น ... ไปซะลิบแล้ว ถอดหมวก ออกสำรวจความเสียหาย ขณะเดินกลับ .... ไม่มีร่องรอยแห่งความเสียหาย .... ฮึ ๆ ๆ ... ช่างมันเหอะ
ขึ้นคร่อมรถ สตาร์ท ขับออกไป ... ขับ ๆ ... จอด ๆ ... แวะ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ที่ตลาดท่ายาง
.... 14:30 น. ถึงบ้านที่นครปฐม ฮึ ๆ ๆ .... 12 ช.ม. ภารกิจจบลงอย่างสวยงาม แถมความสนุก ครึกครื้น ไว้ในใจลึก ๆ
ค่ำวันนั้น ข่าวก็กระจาย ย้อนกลับไป สุราษฎร์ฯ และ นครศรีฯ โดยกรมโฆษณาการ มีป้า เป็นอธิบดีกรม ฮึ ๆ ๆ ....
เมื่อกลับสุราษฎร์ฯ และ นครฯ ข้าพเจ้าก็ได้รับคำชมเชยอย่างกว้างขวางว่า
“ทำได้ไง .... บ้า .... ระห่ำ ชัด ๆ” .....?
ก็ไม่ทราบซีครับ .... เห็นเขาบอกว่า “คนบ้า หรือมีโรคจิต ไม่ยอมรับหรอก ว่า ตัวเองบ้าาา...หรือเป็นโรคจิต”
..... แต่ … ข้าพเจ้าก็ทราบครับว่า ในแต่ละวัน มีหลาย ๆ ครา ที่ข้าพเจ้าเกิดอารมณ์สนุก เพราะเผลอสติ
ฮึ ๆ ๆ .... ก็ .... เขาคงตั้งข้อหา เอากับข้าพเจ้าถูกแล้วกระมัง
- บล็อกของ paloo
- อ่าน 3325 ครั้ง
ความเห็น
kheatti74
31 สิงหาคม, 2011 - 12:14
Permalink
Re: เขาตั้งข้อหาข้าพเจ้า ว่า บ้าาา .... & .. ระห่ำ
ยอมรับว่าระห่ำครับที่เราผ่านมันมาได้ แต่หากมองอีกมุมเกิดเหตุไรไปมันไม่คุ้มกันครับ อย่าทำอีกเลยครับ :sweating:
ถ้าเดินเรื่อยไป ย่อมถึงปลายทาง
paloo
31 สิงหาคม, 2011 - 13:27
Permalink
อยู่ที่สัมปชัญญะ
ลงทุนด้วยสติ จัดการด้วยสัมปชัญญะ ครับ คุ้มเสมอ ....
ใช้ให้เป็น ... มอไซค์ วิ่งในช่องตัวเอง ระวังเรา ระวังเขา ปลอดภัยกว่ารถยนต์เยอะ
RUT2518
31 สิงหาคม, 2011 - 12:14
Permalink
Re: เขาตั้งข้อหาข้าพเจ้า ว่า บ้าาา .... & .. ระห่ำ
ระห่ำจริงๆครับลุง
krunarong
31 สิงหาคม, 2011 - 12:22
Permalink
Re: เขาตั้งข้อหาข้าพเจ้า ว่า บ้าาา .... & .. ระห่ำ
:good-job: คงไม่เป็นไร ถ้าใจ กาย สติ พร้อมนะครับ
Mintrano
31 สิงหาคม, 2011 - 12:53
Permalink
Re: เขาตั้งข้อหาข้าพเจ้า ว่า บ้าาา .... & .. ระห่ำ
ไม่เป็นไร ใจ กายเราพร้อม แต่อย่าทำบ่อยครับ เป็นห่วง
ตั้ม
31 สิงหาคม, 2011 - 13:27
Permalink
Re: เขาตั้งข้อหาข้าพเจ้า ว่า บ้าาา .... & .. ระห่ำ
โห..ลุง..ผมอ่านแล้วหนาวเลย..ขนาดผมอ่อนกว่าลุงนะ ขับมอไซค์มากกว่าสามสิบปี บิดไปเหนือก็ไปมาแล้วเหมือนกัน ทุกวันนีก็ยังใช้เป็นประจำใช้มากกว่ารถยนต์ด้วยซ้ำ ผมยังไม่บ้าบิ่นขนาดนี้เลย อ่านแล้วเย็นวาบไปถึงข้างหลังเลย แต่นับถือใจลุงจริงๆ..
สมัยนี้..รถเยอะมากครับ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าไอ้เพื่อนร่วมทางเราคนไหนมันเสพยาบ้าหรือสิ่งมึนเมาอะไรมาบ้าง ผมมั่นใจในฝีมือขับรถของตัวเอง ผมมั่นใจในรถที่ผมดูแลตลอดแต่ผมไม่มั่นใจเพื่อนร่วมทาง ล่าสุด..แค่ในเขตปริมณฑลยามไร้แสงตะวัน ผมยังเคยเจอรถสิบล้อขับส่ายไปมาตามหลังผมมาติดๆ ทีแรกบิดหนีครับ แต่มันก็ห้อเหมือนคนเมาไล่หลังเรามาอีก สุดท้ายเลี้ยวเข้าปั้มเลยครับ ไม่กล้าจอดกลัวมันเสย
ลุงครับ..ผมขอเถอะนะครับ..อันตรายมาก..ยิ่งวิ่งบนทางหลวงที่สิบล้อเยอะมาก..วิ่งกันเร็วมาก..น่ากลัวมากเลย.. ดีใจที่ลุงปลอดภัยและทึ่ง อึ้ง เสียว..ไปกับลุงด้วย..เฮ้อ...โล่งอก..
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
paloo
31 สิงหาคม, 2011 - 13:38
Permalink
มีคู.... ก็มีที่คุ้มภัย
มอไซค์ ... ขับในช่องตัวเอง ทางเรียบ ปลอดภัย
ผิดปกติ ว่าคันไหนจะไม่ใช่เพื่อนเรา .. ก็ ... กระโจนคูไว้ก่อน ปลอดภัย .... เห็นไหม? ... รถยนต์ทำไม่ได้นะจะบอกให้
Tui
31 สิงหาคม, 2011 - 22:54
Permalink
Re: เขาตั้งข้อหาข้าพเจ้า ว่า บ้าาา .... & .. ระห่ำ
ลุงครับคิดถุก แล้วที่ไม่บอกใครในบ้าน ลุงครับอะไรผ่านมาแล้ว ผ่านไป ยังไง ผมเชื่อ ว่าลุงคงไม่ได้ทำแบบนี้บ่อยๆ ครับ
หน้า