ล่องแพไม้ไผ่ที่ต้นน้ำพะโต๊ะ

หมวดหมู่ของบล็อก: 

เกาะติดกระแสเดินป่าของชาว สมช.นิดนึง ถือเป็นควันหลงคนรักป่า จริงๆ Slowlife อยากไปร่วมขบวนขึ้นเขาเจ็ดยอดกับ สมช. พอดีว่าเพื่อนอีเมล์มาชวนไประนองก่อน เป็นทริปแบบตัดสินใจยาก ไม่ไปครั้งนี้ก็คงจะไม่ได้ไปถือว่าพลาดแล้วพลาดเลย ....

เริ่มจากนั่งรถทัวร์ไปลงที่ อ.กะเปอร์ จ.ระนอง จากนั้นก็จัดของเดินเข้าป่าไป ตามกำหนดเขาบอกว่าเดินป่าวันเดียว แต่ Slowlife ไม่เชื่อหรอกค่ะ ก็ทำใจไว้แล้วว่าน่าจะมากกว่านั้น แล้วก็เป็นไปตามคาดค่ะ เดินขึ้นเขาผ่านสวนปาล์มชาวบ้านไปหนึ่งลูก จากนั้นก็เดินบนบก สลับกับเดินตามลำห้วยบ้าง ลำธารเล็กๆ บ้าง ประมาณห้าโมงเย็น เราก็ต้องหาที่พัก ที่พักเราใครที่ไปเจ็ดยอดก็ประมาณนั้นแหละค่ะ คืนนี้ฝนตก...ข้อควรระวัง...ถ้าเห็นหาดทรายสวยๆ แล้วโรแมนติกอยากนอนละก้อ...คิดใหม่ค่ะ เพราะน้ำเริ่มขุ่น...แล้วก็จะมีน้ำป่า 

อยากให้ดูภาพนะคะ...ไม่ใช่ฝีมือ Slowlife หรอกค่ะ ไม่สามารถ แค่เดินให้ทันคนข้างหน้า ก็แทบจะวิ่ง ทากยังไม่มีเวลาแกะออกจากขาเลย เพราะทากเยอะมาก ถึงมากที่สุด จบทริป นับได้ประมาณยี่สิบแผล

ถึงเวลาพักน้อย...คือพักเหนื่อยน่ะค่ะ มีมหกรรมแกะทาก นั่งในน้ำแกะทาก เพราะถ้านั่งบนบกก็เจอมันอีก เสื้อสีฟ้า Slowlife เองค่ะ กำลังแกะทากดีดใส่น้องๆ กร๊ากกก

อยากให้เห็นความสมบูรณ์ของป่าระนองนะคะ...สวยมาก...ลำธารในป่าไกลผู้คน หาดทรายในป่า ริมลำธารรอยเท้าช้าง สัตว์เท้ากีบ  เต็มไปหมด บนต้นไม้มีค่าง มีเสียงร้องของชะนี


ไปแล้วมีความสุขนะคะ...ชุ่มชื่น ช่วยกันนะคะ รักษาไว้ ป่าที่เข้าไปนี่คือต้นน้ำคลองพะโต๊ะ จ.ชุมพร ค่ะ จากลำธารเล็กๆอย่างนี้ จะไหลไปรวมกันเป็นแม่น้ำใหญ่ๆ ที่จืดและใสสะอาดหล่อเลี้ยงคนในเมือง

ลำน้ำจะเริ่มกว้าง เรื่อยๆ รุ่งเช้าเราก็เดินกันอีกค่ะ ข้ามเขาไปอีก ประมาณบ่ายๆ เราจึงได้พัก และเริ่มต่อแพไม้ไผ่ เริ่มจากตัดต้นไผ่และลากลงมาในแม่น้ำ

อุปกรณ์ยึดแพเราคือหวายค่ะ...พี่ช้างผู้ชำนาญการต่อแพกำลังเหลาหวาย ไว้ว่างๆ จะเขียน blog ต่อแพไม้ไผ่ เผื่อใครได้ไปรายการเรียลลิตี้ ผจญภัยกลางป่าลึก อะไรแบบนี้จะได้มีไอเดีย

แพไม้ไผ่รูปร่างแบบนี้นะคะ...นั่งสามคนค่ะ พร้อมสัมภาระ งานนี้ใครเจ๋งไม่เจ๋งวัดกันที่แพคของกันน้ำค่ะ เพราะเรายังไม่ออกจากป่า ถ้าเสื้อผ้า เครื่องนอนเปียกหมด ...อะไรจะเกิดขึ้นนน

เราเริ่มล่องแพกันวันที่สามค่ะ เพราะกว่าจะทำแพเสร็จก็เย็นค่ำ ต้องแคมป์ก่อน ไม่เหมาะจะล่อง  เริ่มล่องแพกันตอนเก้าโมงเช้า...ถึงที่พักสี่ทุ่ม...กลางวันก็สวยดีแหละค่ะ...สนุกมีแก่ง มันส์...แต่พอเริ่มมืด...หนาวก็หนาว หิวก็หิว แก่งก็มองไม่เห็น สองข้างทางมืดสนิท...เร้าใจมาก...เราล่องแพนับได้สิบสามชั่วโมง มาออกบ้านหลางตาง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร

บางช่วงนี่ พวกเราต้องลงเดินนะคะ ให้แพล่องไป เพราะอันตราย แก่งใหญ่ น้ำแรงและแคบ จากความยาวของลำไผ่ทำให้การถ่อแพต้องอาศัยความชำนาญ...

จบท้าย blog ด้วยภาพนี้นะคะ...รักตัวเอง ก็รักษาป่าไว้นะคะ แต่ก่อน Slowlife เดินป่าใต้ต้องผ่านสวนยาง เดี๋ยวนี้กลายเป็นผ่านสวนปาล์ม เคยมีใครบอกว่า ต้นยางรากไม่ลึกยึดดินไว้ไม่ดี แต่คราวนี้เป็นปาล์ม...ก็ไม่รู้ว่าจะดีกว่ายางหรือเปล่า

ขอบคุณภาพสวยๆ จากพี่พนธ์ พี่ที่น่ารักตลอดกาล และต้องขอโทษที่เปลืองพื้นที่รูปภาพนะคะ คราวนี้ไม่ได้เอาไปใส่ไว้ในเวปรูปภาพและนำแต่โค๊ตมาใส่

คงมีหลายเรื่องราวที่ต้องเป็นไปในบ้านสวนพอเพียง มากคนก็มากความนะคะ...สติและความอดทนจะทำให้ผ่านพ้นไปได้ บ้านเมืองเรามีความขัดแย้งมากพอแล้ว และทุกคนมีความต่าง มนุษย์เป็นสัตว์สังคมค่ะ..."แสวงหาจุดร่วม และสงวนจุดต่าง" รักกัน รักกันนะคะ

 

slowlife

ความเห็น

ชอบภาพพี่ช้างเหมือนกันค่ะ คนถ่ายเก่ง แต่แอบตินิดนึง ตรงที่น่าจะให้พี่ช้างเงยหน้าเห็นจมูกหรือคางนิดๆ นะคะ จะเริ่ดมาก แต่อย่างว่าแหละค่ะ ถ่ายภาพแบบนี้ ไม่ใช่ถ่ายนางแบบจะได้ให้เขา เงยหน้านิด ก้มหน้าหน่อยได้อย่างใจนะคะ...แต่ยังไง เราก็ว่าสวยค่ะ ภาพนี้

เดินป่าล่องแก่งเป็นอีกเรื่องที่ใฝ่ฝันอยากจะไปมากๆ แต่กลัวเรื่องน้ำป่าที่ไม่รู้จะป้องกันยังไงและมาเมื่อไร แต่อยากสัมผัสแบบดิบๆสักครั้งในชีวิต เคยแต่ไปแบบสบายๆไม่มัน

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

อย่ามัวแต่ฝันค่ะ...มีหลายอย่างที่ผ่านแล้ว มันผ่านไปเลยนะคะ ไม่หวลกลับมาอีกแล้ว...เรื่องน้ำป่าอย่าไปกลัวค่ะ คนที่เดินเค้ารู้ค่ะ ไม่ใช่อยู่ๆ มันจะทะลักทะลายมาหรอกค่ะ มันมีเหตุ มีอาการล่วงหน้า แล้วเดินป่าเราเดินที่สูงค่ะ หนีทัน สำคัญแต่เวลานอน อย่าแคมป์ริมน้ำ

เคยคิดจะไปหลายครั้ง แต่จะล่องสนุกต้องช่วงฝนหรือปลายฝนต้นหนาว คุณนายคุณหนูไม่ยอมให้ไปท่าเดียว ถึงขนาดตัดญาติขาดอีโต้ถ้าหนีไป อ้างว่าคาดเดาอะไรไม่ได้กับน้ำป่า ตัวผมเองถึงว่ายน้ำเป็นและเคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำก็ไม่มั่นใจว่าจะเอาตัวรอดได้..แต่อยากไปจริงๆนะ..ขอสักครั้งก่อนที่สังขารจะไม่เอื้อ

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

อันนี้เป็นปัญหาครอบครัว คงเป็นห่วงคุณตั๊ม....มีเพื่อนรุ่นพี่คนนึง อายุหกสิบแล้วแหละค่ะ เป็นทหาร ออกจากราชการก่อนกำหนด เพื่อเที่ยว...ลูกสาวเป็นแอร์ฯ คุณพ่อก้ประมาณชอบเดินป่า ดำน้ำมากๆ คุณลูกก็สนับสนุนค่ะ ซื้อตั๋วบินราคาพนักงานบินไปเนปาล เดินเทรคเป็นว่าเล่น หรือไม่ก็ไปขับรถเที่ยวเกาะเหนือ เกาะใต้ ให้พวกเราอิจฉาซะงั้น เคยถามเหมือนกันว่า ที่บ้านไม่ห่วงเหรอ...พี่เค้าบอก ก็ห่วงเหมือนกัน เค้าก็ให้เบอร์สาขาของสายการบินไว้ทุกประเทศที่คุณพ่อไป...แล้วถึงเมืองท่าต่างๆ ก็อีเมล์ถึงกัน...เป็นความผสมที่ลงตัวนะคะ..."แสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง " ให้มัน พอดี พอดี

หน้า