คิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
เมื่องวดที่แล้วเดินท่อประปาไปแล้วรอบโดยการใช้ท่อเก่า เศษเล็กเศษน้อยมาต่อก็พอมีน้ำให้วัวกับเป็ดกินได้จากนั้นก็หมดท่อ ตรงส่วนที่จะปลูกผักข้างบ่อยังไม่มีท่อจะเดินต่อไป เลยต้องใช้วิธีหิ้วถังรดเอา แรก ๆ ยังพอหิ้วได้แต่พอหิ้วหลาย ๆ รอบเข้าก็เริ่มหอบแล้วค่ะ อยากได้ท่อสักสิบท่อ แต่คนไม่มีงานทำจะไปเอาเงินมาจากที่ไหนกัน บางคนอาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก สำหรับคนไม่มีงานทำเป็นเรื่องระดับครอบครัวเลยค่ะ เก็บเล็กผสมน้อยมานานพอดู แรก ๆ ยังมีเงินก็ลงมันทุกอย่าง อยากทำอะไรก็ทำแม่ก็บอกให้ใจเย็น ๆแต่ไม่ฟัง พอเงินหมดแม่บอกเป็นไงละหาเอาเองเลยแม่ไม่มีให้แล้ว สุดท้ายก็หาได้โดยการใครมาจ้างทำอะไรก็ทำ เช่นบางคนเข้ามีต้นไม้เข้าตอนไม่เป็นเข้าก็มาจ้างไปให้ตอนให้ บางคนก็มาจ้างทำงานเอกสารเล็ก ๆน้อย ๆ อันนี้รายได้ดีทำนิดเดียวได้เงินมากพอดูเลย แต่ไม่มีประจำเท่านั้นเอง (พูดง่าย ๆ รับจ้างทั่วไปนั่นเอง) เคยเห็นแต่รถรับจ้างทั่วไป แต่นี้คนรับจ้างทั่วไป วันนี้มีเงินพอซื้อท่อแล้วรีบไปซื้อเลยเดียวเงินหมดอีก เดียวได้หิ้วน้ำหอบรับประทานแน่เลย ใครที่จะออกจากงานมาทำสวนเต็มตัว ขอให้คิดสักนิดว่า สุดยอดของความเหนื่อยและได้เงินน้อยเราจะรับได้แค่ไหน ถ้ามีสองทางให้เลือกทำงานที่บ้านเงินเดือนน้อยกว่าที่ในเมืองแต่ได้ปลูกผักกินเอง (อย่าเพิ่งคิดจะปลูกขาย) ทำงานในเมืองได้เงินอย่างมากมาย แต่ต้องซื้อผักกินเองทุกอย่าง (จะเลือกแบบไหน)
1 ลูกยังต้องเรียนหนังสืออยู่หรือเปล่า
2 บ้านยังต้องผ่อนอยู่หรือเปล่า
3 เรายังมีหนี้สินมากมายแค่ไหน
4 ทำงานที่ไหนก็มีปัญหาทั้งนั่น
5 ลาออกมาทำสวนมีปัญหาเรื่องเงินแน่นอนถ้ายึดเอาเป็นอาชีพหลัก
6 ถามใจทนต่ออีกได้ไหมในที่ทำงาน ที่บอกว่าเบื่องาน เบื่อหลาย ๆ อย่าง
7 ถ้ามีปัญหาใครที่จะลำบากมากที่สุด (คนที่เรารัก หรือคนที่รักเรา) ทั้งสองอย่างสำคัญเท่ากัน
ที่เอามาเขียนไม่ได้บอกว่าทำสวนไม่ดีนะค่ะ ดีมากตรงที่ได้อยู่กับธรรมชาติอยู่กับสิ่งที่เราอยากทำ แค่เอามาเราให้ฟังว่าปัญหามันเกิดตรงไหน แล้วแต่ละคนมีวิธีแก้ต่างกัน บางคนถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเงินถ้ามีที่ดินอยู่ก็ใส่ไปเลยค่ะ ส่วนผู้เขียนเองถ้าให้ย้อนไปตัดสินใจใหม่ว่าจะลาออกหรือจะอยู่ต่อ ก็ยังเลือกที่จะลาออกอยู่ดีค่ะ ไม่เคยเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองเลย ให้เลือกอีกพันรอบก็ยังเลือกทางเดินที่เลือกแล้วค่ะ โดยมีวิธีคิดที่ว่าพ่อ แม่ ก็แก่เฒ่าแล้วท่านจะอยู่กับเราได้อีกสักกี่ปีกันเวลาของท่านมีน้อยกว่าเวลาของเรา (หรือเราอาจจะไปก่อนท่านก็ได้) นี้เป็นวิธีคิดของผู้เขียนเอง ถ้าใครทำไม่ได้ก็ไปหาท่านบ่อยหน่อยก็ดีค่ะ
เขียนไปเขียนมาทำไมมาถึงตรงนี้ได้ละ คงเป็นเพราะเมื่อเช้าแม่มีเรื่องเอามาเล่าให้ฟังอีกเช่นเคยค่ะ ยายอยู่อีกหมู่บ้านยายรู้จักกิ่งค่ะ แม่บอกยายว่ากิ่งมาอยู่บ้านแล้วแต่ยังไม่มีเวลามาหายายเลย พอได้ฟังยายร้องให้ใครมาปลอบก็ไม่หยุด เรื่องมีอยู่ว่ายายมีลูก 5 คน ลูกยายไม่เคยมาดูดำดูดียายเลยเงินก็ไม่ส่ง หายไปหลายปีแล้วไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะส่งเงินมาให้ยาย ยายเลี้ยงตัวด้วยการปลูกผักขายในที่ประมาณ 1 งาน ยายปลูกผักได้ก็เอาไปแลกข้าวสาร หรือขายเป็นเงินก็มี จะทำแบบนี้อยู่ทั้งปี แม่บอกว่าให้กิ่งรีบไปหายายด้วยยายคิดถึง เพื่อยายจะหายคิดถึงลูกยายลงได้หน่อย (คุณทำให้แม่ร้องให้อยู่หรือเปล่าค่ะ)
หลานเทวดาหลานคนเดียวในบ้านนี้ก็เป็นอีกคนที่ทำให้แม่ยิ้มได้
- บล็อกของ กิ่ง ก้าน ใบ
- อ่าน 6026 ครั้ง
ความเห็น
kittisak
14 กรกฎาคม, 2010 - 15:37
Permalink
ขอบคุณครับ สำหรับข้อคิดเห็นดีๆ
ผมวางแผนและคิดมาปีที่ 5 แล้วยังไม่หลุดพ้นจากมนุษย์เงินเดือนเลย
ตั้ม
14 กรกฎาคม, 2010 - 15:47
Permalink
เห็นด้วยกะกิ่ง
อย่างที่เคยแลกเปลี่ยนกันมาหลายครั้ง..เห็นด้วยกับชีวิตอย่างพอเพียง..แต่อย่างที่กิ่งว่า..คืออาจจะต้องเก็บเงินเป็นทุนรอนสักก้อน..และควรค่อยเป็นค่อยไป..หากเราไปทุ่มเสียหมด(หมายถึงทุนนะ) ต้องตอบคำถามได้ว่ามันจะให้ผลย้อนกลับมาเมื่อใด..เรารอได้มั๊ย..ทุนหมดแต่ผลผลิตยังไม่ตอบสนอง..จะใช้..จะต่อยอดอย่างไร..ทำแบบน้ำซึมบ่อทราย..ค่อยๆเก็บ..ค่อยๆต่อยอด น่าจะปลอดภัยกว่า (จริงๆแล้วมันก็ไม่ต่างจากการลงทุนอื่นๆ..ผมเคยมีประสบการณ์อย่างนี้ในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มาแล้ว..จนเดี๋ยวนี้รู้แล้วว่าจะเข้าเกียร์ตอนไหน เหยียบคันเร่งตอนไหน เหยียบเบรคตอนไหน..ที่สุดคือ..ไม่ต้องเร่งมาก..อันตราย..มีสติกับเบรคและคันเร่งในทุกจังหวะของความเร็ว)
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
sblue12
14 กรกฎาคม, 2010 - 15:50
Permalink
สวัสดีครับ
แวะมาให้กำลังใจครับ ผมเองก็ทุนน้อยเหมือนกันครับ อาศัยค่อย ๆ ทำไป พอได้เงินจากการขายผักก็เก็บ ๆ ไว้ เอามาขยายระบบน้ำ ซื้อพันธุ์ผักปลูกเพิ่ม ขยายไปเรื่อย ๆ ก็หวังว่าสักวันจะถึงเป้าหมาย.. สู้ ๆ ครับ (ในความคิดผมต้องมีรายได้จากหลาย ๆ ทางถูกต้องแล้วครับ )
"ไม่มีอะไรอยู่กับที่ ถ้าเราไม่หยุดเดิน"
แป้ง
14 กรกฎาคม, 2010 - 16:34
Permalink
มาให้กำลังใจ
แวะมาให้กำลังใจคุณกิ่ง...คุณกิ่งกล้ามากกว่าพี่แป้งอีก..พี่อยากออกจากงานมากมายแต่ยังไม่กล้าเลยเพราะติดยึดอยู่ในข้อ 1 - 3 นี่หละจ้ะ
ชวิน
14 กรกฎาคม, 2010 - 19:07
Permalink
คิดดี
ผมเคยคิดว่าอีก2 ปีจะออกไปทำนาทำสวน แต่ตอนนี้ ที่สวนยังไม่มีอะไรเลย
จะต้องทะยอยปลูก และเก็บเงินรอวันนั้น แต่พอได้มาฟังคุณกิ่ง เล่ามา อึ้งไปเหมือนกัน
ต้องคิดหลายตลบเลย
ขอบคุณครับ
พอเพียงเพื่อเพียงพอ
jabee_68@hotmail.co.th
ชวิน
14 กรกฎาคม, 2010 - 19:07
Permalink
คิดดี
ผมเคยคิดว่าอีก2 ปีจะออกไปทำนาทำสวน แต่ตอนนี้ ที่สวนยังไม่มีอะไรเลย
จะต้องทะยอยปลูก และเก็บเงินรอวันนั้น แต่พอได้มาฟังคุณกิ่ง เล่ามา อึ้งไปเหมือนกัน
ต้องคิดหลายตลบเลย
ขอบคุณครับ
พอเพียงเพื่อเพียงพอ
jabee_68@hotmail.co.th
น้ากล้วย
14 กรกฎาคม, 2010 - 19:09
Permalink
สู้ ๆครับคุณ กิ่ง
ฟ้าหลังฝนย่อมแจ่มใสเสมอ สู้อีกนิดเถิดน้อง ใกล้จะถึงจุดสำเร็จแล้ว สู้ ๆ งานหนักไม่เคยฆ่าคน มีแต่ทำให้คนแข็งแกร่ง
rose1000
14 กรกฎาคม, 2010 - 19:15
Permalink
เป็นกำลังใจให้ครับ
น้องกิ่งเป็นคนที่แน่วแน่และมั่นคง พี่คิดว่าน้องกิ่งต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆไปได้แน่นอน ขอเป็นอีกหนึ่งแรงใจให้น้องกิ่งสู้ต่อไป
สวนฟักแฟงแตงไทย
14 กรกฎาคม, 2010 - 19:38
Permalink
มาให้กำลังใจพี่กิ่ง
สู้สู้ค่ะ
ตอนลงมือทำครั้งแรกเหนื่อยเยอะเหมือนกันค่ะ สำหรับคนทำงาน
เช้าได้แค่เตรียมแปลงให้เสร็จก่อน 6โมงเช้า บางทีก็ขุดหลุมไว้ปลูกต้นไม้สัก 2 -3 หลุม
เตรียมตัวส่งลูกไปเรียนในเมือง ระยะทางห่างจากบ้าน 17 กิโล ส่งลูกเสร็จย้อนกลับมาถึงที่ทำงานอีก 17 กิโล ให้ทัน 2โมง
เลิกงานไปรับลูก ตอนเย็นกลับมาถึง หลัง 6 โมงเย็นไปแล้ว ตะวันตกดิน บางครั้ง ก็ 2 ทุ่ม ยังวุ่นกับสวนอยู่ ก็ใช้ไฟแบตเตอรี่ส่องปลูก
บางทีเป็นคืนเดือนหงายก็ช่วยได้บ้าง บางทีไม่มีเวลาว่างจริงๆก็เลื่อนไปบ้างปลูกในสัปดาห์ต่อไป เดือนต่อไปก็มี
เข้านอนหลัง 6 ทุ่ม ก็อดทนเอาค่ะ เหนื่อยก็พักเพราะไม่ใช่งานประจำ ไม่มีเจ้านาย เป็นนายตัวเอง มีเวลาดูแลน้อยต้นไหนตายก็ซ่อมใหม่ อย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนเป็นอย่างที่เห็นนี้แหละค่ะ
2 ปีกว่าๆ ตั้งแต่เริ่มทำสวนมาเวลาก็ผ่านไปไวเหมือนโกหก ...เฮ้อนี่แหละชีวิต
น้อย สวนบุรีรมย์
14 กรกฎาคม, 2010 - 19:55
Permalink
ขนาดผมไม่เคยหวังรายได้จากสวนย
ขนาดผมไม่เคยหวังรายได้จากสวนยังท้อๆ เลยครับในบางครั้ง
อย่างปีนี้แล้งมาก ส้มโอ 2 ต้น มังคุด 2 ต้น สะตอ 1 ต้น ตายไปอย่างน่าเสียดาย กล้วย 4-5 เครือที่เหี่ยวโค่นไปก่อนได้ตัด
กระท้อน 1 ต้น เคยได้กิน 2-300 ลูก ปีนี้ได้ไม่ถึง 100 ลูก
อีกอย่างที่น่าหนักใจแทนเกษตรกรก็คือ ผลผลิตทางการเกษตรเหมือนจะขายแพงไม่ได้ ไข่ 3 บาท 80 ก็ถูกแตะสกัดแล้ว
สวนเกษตรบุรีรมย์การเกษตรแบบเสาร์เว้นเสาร์ เน้นที่เราปลูกเองกินเอง
บริการจัดทำและดูแลเว็บไซต์ ถูก ดี มีประสิทธิภาพ
หน้า