กระเจี๊ยบเขียว

การแ่บ่งปันน้ำใจ บ้านสวนพอเพียง

วันนี้ขอส่งการบ้านชุดสุดท้ายที่ได้รับ..ที่ชื่อว่า "กระเจี๊ยบเขียว" งอกงามดีมาก ของคุณครูสาวภูธรค่ะ

03.06.54 หยอดเมล็ดในถุงเพาะ ถัดมาได้ 3 วันก็งอกออกมาให้ยลโฉมหน้า เลยที่เดียวค่ะ

ได้รับการบ้านรอบใหม่ค่ะ  จากน้ำใจพี่น้องชาวบ้านสวน และที่ประทับใจมาก ๆ คืือ ที่ขอไปน่ะ ขออย่างเดียวค่ะ แต่เวลาจดหมายมาถึง มีของแถมเพียบค่ะ  เดี๋ยวจะให้ดูของจริง ขอขอบคุณคุณครูทุกท่านที่ส่งการบ้านมาให้ในครั้งนี้ค่ะ  และขอแจ้งให้ทราบว่าการบ้านที่เคยได้รับทั้งหมด นอกจากจะปลูกเอง ให้ญาติ ๆ ไปปลูก ตอนนี้มีโครงการใหม่ คือที่ อบต.จะจัดทำโครงการเศรษฐกิจพอเพียงด้วย โดยให้สมาชิก อปพร.เป็นผู้ดำเนินการ และดูแลรักษา เพราะปลูกด้านหลังสำนักงาน และเป็นอาหารกลางวัน หรือจะรวมทั้งมือเย็นด้วย เพราะจะมีสมาชิก อปพร.มาอยู่เวรที่สำนักงานทุกวันทั้งกลางวันและกลางคืน จึงคิดจัดทำ

     เมื่อวานฝนตกวันนี้ไม่ต้องรดน้ำผัก ตอนเช้าก็เหมือนเดิมครับเดินเก็บรูปในสวนได้รูปมาเยอะมาก ตั้งใจที่จะเอารูปมาเขียนบันทึกแต่คงเป็นบันทึกที่ยาวเท่ารถไฟ ก็เลยได้ความคิดว่าเอามานำเสนอทีละอย่างดีกว่า ขอเริ่มด้วยกระเจี๊ยบเขียว

     ผมได้พันธุ์กระเจี๊ยบเขียวมาจากนครสวรรค์ เอามาปลูกที่บ้านเมื่อประมาณปลายปี 2550 จำได้ไม่แน่ ผมชอบความอร่อยของผักชนิดนี้ แต่แปลกครับคนแถวบ้านไม่รู้จักกระเจี๊ยบเขียว และกินไม่เป็นกัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมก็ปลูกกระเจี๊ยบเขียวไปหลายครั้งแล้ว รวมทั้งปลูกขายได้ด้วยได้เงินประมาณ 600 บาทเห็นจะได้ กระเจี๊ยบเขียวพันธุ์ที่ผมปลูก ต้นและฝักสีเขียวจัด ไม่กี่เดือนก่อนผมไปที่ร้านขายสินค้าเกษตรเห็นมีเมล็ดพันธ์กระเจี๊ยบเขียววางขายอยู่แต่ฝักสีเขียวอ่อน ออกมาทางเหลืองก็เลยลองซื้อมาปลูกดู พอมันออกฝักจึงเห็นถึงความแตกต่างครับ

      ฝนไม่ตกมาสองสามวันแล้วครับ เสร็จภาระกิจจากสวนยางก็ต้องรดน้ำผัก วันนี้พิเศษกว่าวันอื่นๆ เพราะผักบางอย่างออกดอกแล้วครับ อย่างบวบฟองน้ำที่น้องเอ็มซื้อมาฝากจากประเทศจีน ดอกบวบบ้านเราบานตอนเย็น แต่บวบฟองน้ำบานตอนเช้าครับ

ในการปลูกผักของผมที่ผ่านมา ถ้าวันไหนฝนตกผมก็จะดีใจเพราะไม่ต้องรดน้ำผัก วันนี้เป็นวันที่ 7 แล้วที่ฝนตกและไม่ต้องรดน้ำผัก แต่ดีใจไม่ออกครับเพราะผลพวงจากการที่ฝนตกติดต่อกันหลายวันนั่นคือ ผลผลิตของกระเจี๊ยบเขียวลดลง จากที่เคยได้วันละประมาณ 5 ก.ก. ก็ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ จนเหลือ 2.5 กิโลกรัม จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ก็ในเมื่อไม่มีแสงแดดเป็นปัจจัยในการปรุงอาหาร เมื่อขาดแสงแดดมีแต่น้ำการเติบโตของต้นไม้ก็ไม่ปกติ ทำให้ผลผลิตของกระเจี๊ยบลดลง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ทำให้ได้รู้ครับ ได้ความรู้อีกอย่างหนึ่ง

หลังจากที่ได้เก็บกระเจี๊ยบเขียวมีดแรก แล้วนำไปแบ่งปันเพื่อนบ้านไปแล้วนั้น การเก็บกระเจี๊ยบครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ก็ตามมา แต่ยังคงกินเอง และแบ่งปันคนรู้จักเช่นเดิม  ครั้งที่ 4 ครั้งที่ 5 เก็บได้ประมาณ 5 กิโลกรัมต่อครั้ง

ก็ได้ทดลองขาย ผลปรากฎว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก และกินไม่เป็น แต่ผมกลับคิดว่าไม่ใช่ปัญหา เพราะยังมีกลุ่มคนส่วนหนึ่ง ที่รู้จักและกินเป็น และมองว่ากระเจี๊ยบเขียวเป็นพืชสมุนไพร   หรือบางคนก็บอกว่าซื้อเพราะชอบกินผักจะลองเอาไปกินดู

กระเจี๊ยบเขียวเป็นผักที่ผมชอบ ได้กินครั้งแรกเมื่อไหร่จำไม่ได้ แต่ในครั้งนั้นทำให้รู้สึกชอบขึ้นมา และเมื่อปลายปี 49 ผมได้พันธุ์กระเจี๊ยบเขียวมาจากนครสวรรค์ ก็เอามาปลูกที่บ้าน เป็นเรื่องแปลกคนแถวบ้านไม่รู้จักกระเจี๊ยบเขียว

นี่คือภาพกระเจี๊ยบเขียวที่ให้ผลผลิตเมื่อต้นปี 50 และผมก็เก็บเมล็ดเอาไว้ทำพันธ์เรื่อยมา ตอนที่ปลูกเมื่อต้นปี 50 นั้นปลูกไม่มาก ไว้กินเองและแจกเพื่อนบ้านที่อยากทดลองกิน

เมื่อ 25 กันยายน 2551 ที่ผ่านมา ผมได้ทดลองปลูกกระเจี๊ยบเขียว จำนวน 600 กว่าต้น ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะขายที่ไหน แต่อยากพิสูจน์ตัวเองว่าสามารถดูแลพืชผักที่ปลูกในปริมาณมากได้มั๊ย