ปุ๋ย, น้ำหมัก

ปกติเวลาผมจะทำน้ำหมักชีวภาพ จะเตรียมน้ำตาลละลายน้ำไว้ก่อน พอได้สิ่งที่จะหมัก ก็เอามาใส่เลย เช่น หมักเปลือกมังคุด ก็จะเตรียมน้ำ + น้ำตาล ใส่ถังไว้ พอได้เปลือกมังคุดมาก็เทใส่ถังเลย

น้ำที่ใช้หมัก ก็จะใช้น้ำบ่อ หรือน้ำฝน ซึ่งเก็บเอาไว้หลายวัน

เป็นครั้งแรกที่ ผมได้หมัก ผงโบกาชิ ด้วยตัวเอง เมือเปิดดม จึงรู้ว่ามัน หอม อย่าที่ทราบกันว่าผมเป็นชมาชิค ใหม่ ดั้งนั้ง บล็อกที่ผมสร้างอาจจะชื่อไปเหมือนท่านอื่นได้ แต่นื้อหาที่ผมพิมพ์น่าจะไม่เหมือนกับใคร ข้อมูลในบล็อก อาจเป็นความรู้ที่หลายท่านรู้อยู่แล้วแต่ก็ย่อมมีบ้างท่าน ที่ยังไม่รู้ผมจึงหวังว่า ท่านที่เข้ามาอ่านจะได้ประโยชน์จาก บล็อกผมนะครับ ความรุ้ที่ผมพิมพ์มาจาก ความรู้ส่วนตัว ที่ได้ค้นหาอ่าน และสอบ

ความตั้งใจ กับการทำปุ๋ย..ปุ๋ยหมักขี้วัวกำลังดำเนินการไปทุกวัน..แต่วันนี้ขอนำเสนอปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ โดยมีผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ... ครั้งที่แล้วหมัก ชมพู่หนึ่งโอ่ง และ ขนุนหนึ่งถัง คิดว่าคงถึงเวลาใช้แล้ว (คิดเอาเอง..

ตอนเช้าไปเที่ยวสุราษฏรธานี ตอนบ่ายกลับมาถึงสวน เห็นเขาคัดมังคุด(ออก) เลือกผลใหญ่ๆไปขาย มีพ่อค้ามารับถึงที่ ลูกเล็กๆเขาไม่เอา และลูกที่สอยแล้วตกกระทบพื้นดิน ก็ขายไม่ได้ เพราะเปลือกจะแข็ง คัดไม่ออก ปอกกินไม่ได้ ทิ้งลูกเดียว(ทั้งหมด) ผมก็เลยจัดการเอามาหมัก ตามสูตรเดิม

ลองดูภาพก่อนนะครับ กินแล้วอย่าทิ้ง บางครั้งราคาเปลือกแพงกว่าทั้งลูก

น้ำหมัก หลังจากหมักครบกำหนดก็เอากากออก แล้วกรอกใส่ขวดพลาสติกไว้ พอกลับมาจากทำงานเห็นขวดมันบวมๆๆก็เลยเปิดดู แรงดันของน้ำหมักชีวภาพ

เหมือนน้ำพุเลยค่ะ (แรงมากน้ำขนาด 6 ลิตรเกือบหมดขวด )

เกิดจากอะไรเนี้ยะถามพี่ๆๆชาวบ้านสวนหน่อยค่ะ ต้องทำยังกับขวดที่เหลือไม่กล้าเปิด

วันนี้เข้าสวนแต่เช้า ฝนไม่ตก เลยถ่ายรูปมาให้ดูกันครับ

เริ่มต้นที่กระดองปูม้า

เอาไปเติมในถังหมัก ปกติต้องตัดให้เป็นชิ้นเล็กๆ เปลือกสดจะเหนียว หากเอาไปต้มให้สุกจะนิ่มกว่า

เกือบทุกสายๆ (คือไม่ใช่ทุกๆเช้าๆ) ผมจะต้องไปเอาเปลือกไข่สดๆ เพราะเขาเพิ่งตอกไข่แตก เอาไข่ไปขาย ส่วนเปลือกทิ้ง หากใบไหนไข่แดงแตก เขาก็ทิ้งทั้งใบ ได้มาวันละกระสอบอาหารสัตว์ บางวันก็เต็มกระสอบ บางวันก็ครึ่งกระสอบ วันไหนได้เต็มกระสอบผมนี่สงสารคนเลี้ยงไก่เลยครับ เพราะไข่แตกเยอะ หากผมได้เปลือกไข่น้อย ไข่ก็แตกน้อย ขายไข่ทั้งเปลือก จะได้ราคาดีกว่า