เขียนโดย อ้อยหวาน เมื่อ 29 เมษายน, 2016 - 21:08
วันนี้แหละเป็นวันของเธอ ภูเขาลูกนั้นกำลังรอเธออยู่ ดังนั้นจงเร่งรีบไป
“Today is your day, your mountain is waiting. So get on your way.”
― Dr. Seuss
เขียนโดย อ้อยหวาน เมื่อ 23 เมษายน, 2016 - 04:04
บ่อยครั้ง..การเรียนรู้ตัวเองคือการออกไปเรียนรู้โลก
การท่องโลกกว้าง แบกเป้เดินป่า ปั่นจักรยาน หรือแม้แต่การเข็นจักรยานขึ้นเขา.. ไม่ว่าเราจะไปสุดไกลแสนไกลเพียงใด ได้สัมผัสธรรมชาติ กลิ่นอายท้องถิ่น เก็บประสบการณ์จากวิถีชีวิต ธรรมเนียม ประเพณีของผู้คนที่แตกต่าง สุดท้ายสิ่งที่เราได้คือ การเรียนรู้ตัวเอง
เขียนโดย อ้อยหวาน เมื่อ 10 เมษายน, 2016 - 07:38
บล็อกแอบดูเมืองจีนเพิ่งจะเสร็จไปสดๆ ร้อนๆ แม้จะก้าวเท้าออกจากแผ่นดินจีนมาเป็นเดือนแล้ว อ้อยหวานขอเหลียวหลัง ชะเง้อคอดูจีนอีกสักบล็อก แต่จะเป็นการจิบน้ำชาและเล่าเรื่องใบชา ขอบอกไว้ก่อนว่าความรู้เรื่องใบชาของอ้อยหวานนั้นน้อยนิด มีแต่เรื่องพื้นๆ เล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ส่วนน้ำชา ดื่มก็ได้ ไม่ได้ดื่มก็โอเค แต่ที่ถูกใจแบบรักเลยคือกาน้ำชา ที่บ้านมีกาชาเก็บสะสมไว้เกือบ 50 ใบ เพราะคุณผู้ชายก็ชอบกาชาเหมือนกัน
เขียนโดย อ้อยหวาน เมื่อ 8 เมษายน, 2016 - 03:06
บล็อกสุดท้ายของการแอบดูจีน อ้อยหวานจะพาไปแอบดูตลาดจีนกัน การออกไปเดินชม เดินซื้อของในตลาด ชมร้านค้า ข้าวของ และผู้คน เป็นการสัมผัสกับวัฒนธรรมการกินอยู่แบบตรงๆ บ้านพ่ออยู่ไม่ไกลจากตลาด เลยได้ไปเดินดูคนดูของกันวันละหลายรอบ และที่อ้อยหวานกับน้องทำเป็นกิจวัติทุกเช้าก็คือ หกโมงเช้ากว่าๆ จะมีคนเห็นสองสาวก้มหน้าก้มตาเดินออกจากบ้าน มุ่งตรงไปที่ตลาด โดยไม่หยุดที่ไหนให้เป็นการเสียเวลา
เขียนโดย อ้อยหวาน เมื่อ 29 มีนาคม, 2016 - 05:30
บล็อกนี้มาต่อเรื่องการฉลองตรุษจีนแบบต้นฉบับที่หมู่บ้านนอกเมืองซัวเถา ที่ฉลองกันสิบห้าวันสิบห้าคืน เป็นสิบห้าวันสิบห้าคืนที่ได้ยินและได้กลิ่นประทัดกันแต่เช้าตรู่ยันเที่ยงคืน แม้แต่ในหมู่บ้านเล็กๆ ก็ยังยึดถือประเพณีดั้งเดิมกันอย่างเหนียวแน่น ธรรมเนียมการฉลองตรุษจีนที่ทำกันอย่างจริงจัง ไม่ได้สร้างฉาก เพราะไม่รู้ว่าจะสร้างไปให้ใครดู หรือไปหลอกใคร
เขียนโดย อ้อยหวาน เมื่อ 19 มีนาคม, 2016 - 05:31
การที่ได้ไปใช้ชีวิต กินนอนในหมู่บ้านนอกเมืองซัวเถาหรือซานโถว (Shantou) หมู่บ้านที่เป็นบ้านเกิดของพ่อ เป็นเวลาตั้งสิบกว่าวัน อ้อยหวานได้ประสบการณ์ที่มีค่าอย่างที่ไปท่องเที่ยวที่อื่นให้ไม่ได้ ได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ เรื่องราวของบรรพบุรุษ วัฒนธรรม ประเพณี อาหาร การกินอยู่ แม้จะพูดภาษาจีนไม่ได้ แต่ก็มีน้องคอยแปลให้ฟังอยู่ตลอด สิบกว่าวันที่เดินเที่ยวชมหมู่บ้านกับพ่อและน้อง และที่ได้เอาจักรยานออกไปซอกแซกผจญภัยอย่างไม่กลัวหลงทาง อ้อยหวานได้สัมผัสเรื่องราวมากมาย เป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าใหญ่หลวง ได้รับรู้อีกเสี้ยวหนึ่งที่เป็นตัวตนของตัวเอง เพราะ ..อดีตของพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ก็คืออดีตของตัวเรา
เขียนโดย อ้อยหวาน เมื่อ 12 มีนาคม, 2016 - 03:27
ชื่อบล็อก “ข้ามกำแพงเหล็ก เปิดประตูไม้ไผ่ แหวกม่านผ้าไหม” มีที่มาจากความรู้สึกของอ้อยหวานต่อประเทศจีน ที่เดี๋ยวอ่อน เดี๋ยวแข็ง เดี๋ยวยาก เดี๋ยวง่าย ประเทศจีนเปิดประเทศให้ผู้คนเข้าไปชมมาหลายปีแล้ว แต่กรรมวิธีการขอวีซ่ายังค่อนข้างยุ่งยาก สำหรับอ้อยหวานได้ขอวีซ่าที่เมืองออตตาวา แคนนาดา โดยใช้พาสปอร์ตแคนนาดา เพราะเคยชินกับอภิสิทธ์ของพาสปอร์ตแคนนาดา ที่ไม่ต้องขอวีซ่าในการเข้าประเทศหลายประเทศในยุโรบ ญี่ปุ่น รวมถึงสหรัฐอเมริกา ทำให้รู้สึกว่าการขอวีช่าจีนนี้ยุ่งยากมาก ต้องมีตั๋วเครื่องบินและจองโรงแรมไว้เรียบร้อย ก่อนที่จะไปยื่นขอวีซ่า ถ้าไม่ได้วีช่าก็คงต้องเสียค่าตั๋วเครื่องบินฟรี ในช่วงนั้นเกือบถอดใจไม่ไปไปหลายครั้ง แต่พอไปรับพาสปอร์ต ปรากฏว่าคุณจีนให้วีซ่าอ้อยหวานถึงห้าปี เข้าออกกี่ครั้งก็ได้ไม่จำกัด อะไรจะขนาดนั้น!
เขียนโดย อ้อยหวาน เมื่อ 10 มีนาคม, 2016 - 03:55
จากเมืองแต้จิ๋ว กองทัพน้อยๆ ของเราก็มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปยังที่หมายต่อไปคือ เมืองเซี่ยเมิน (Xiamen) ซึ่งอยู่ในมณฑลฝูเจี้ยน (Fujian) หรือมณฑลฮกเกี้ยน กว่าจะถึงเซี่ยเมินรถตู้คันน้อยของเรา ได้พาเราขึ้นเขา ลงเขา เข้าอุโมงค์ยาวบ้างสั้นบ้างที่จีนเจาะภูเขาให้ทางหลวงทะลุผ่าน และบ่อยครั้งที่ทางหลวงเกือบจะเป็นทางลอยฟ้า คือเป็นทางยกระดับที่ตรงแน่ว ไม่มีการคดโค้ง ขึ้นลงเนินให้เสียเวลา นี่เป็นการย่นระยะทางและระยะเวลา แต่ก็มีข้อเสียเช่นกันคือทำให้พลาดชมวิวภูเขาสวยๆ ของฝูเจี้ยน ที่มีคำกล่าวไว้ว่า มณฑลฝูเจี้ยนมีพี้นที่แปดในสิบเป็นภูเขา หนึ่งส่วนคือน้ำ และอีกหนึ่งส่วนเป็นพื้นที่เกษตรกรรม (Eight parts mountain, one part water, and one part farmland)
หน้า