เขียนไปตามบรรยากาศ
หมวดหมู่ของบล็อก:
บรรยากาศยามตะวันใกล้พลบที่นาหม่อม
ทำให้นึกอยากจะเขียนกลอน
ลองนึกคำขึ้นมาได้เป็นประโยค
จึงลองแต่งเป็นกลอนแปด
ดังที่เขียนไว้ด้านล่างนี้
" หลงรักเจ้าหมายปองข้องจิต
จำห่างไกลไม่ได้ชิดเสน่หา
สิบแปดปีผ่านไปไม่ตรีชา
ถึงฟ้าสิ้นดินร้างไม่ห่างชม
ประหนึ่งบัวตูมดอกในตมตื้น
ไม่อาจชื่นแสงสว่างได้สร้างสม
ริมตลิ่งดอกโมกพริ้วกระจายลม
พอชื่นชมคลายจิตสนิททรวง"
ที่แต่งมานี้ กลอนพาไปตามสัมผัส
ไม่ได้มีความหมายใดๆนะขอรับ
ทุกท่านโปรดทราบ
- บล็อกของ นายวิษณุ พรมอินทร์
- อ่าน 5741 ครั้ง
ความเห็น
น้ำหวาน
20 พฤศจิกายน, 2010 - 01:35
Permalink
กลอน
กลอนพี่นุเพราะจัง กลอนพาไปหรือใจพาไปคะ
นายวิษณุ พรมอินทร์
20 พฤศจิกายน, 2010 - 12:13
Permalink
น้ำหวาน
น้ำหวาน แซวเสียจั๊กจึ้ เดี๋ยวต้นกล้ามาอ่าน พี่จะยุ่ง รายนั้นน่ะ เขาเผาเก่ง รับรองพี่ถูกแม่เขาเผาซ้ำ
ดาวเรือง
20 พฤศจิกายน, 2010 - 02:39
Permalink
กลอนเพราะค่ะ
ทั้งวิวทิวทัศน์ สวยงามกลอนแปดก็ไพเราะมากค่ะ
นายวิษณุ พรมอินทร์
20 พฤศจิกายน, 2010 - 12:12
Permalink
กลอนแปดหายไปนะพี่ดาวเรือง
เด็กๆยุคหลัง ไม่ค่อยแต่งกลอนโคลงกัน หายไปเนาะ ว่ามั๊ย
ติดดิน
20 พฤศจิกายน, 2010 - 04:08
Permalink
หือออ
อารมณ์ศิลมากมายค่ะ คิดฮอดไผอยู่น้อ ฮ่อๆ
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
นายวิษณุ พรมอินทร์
20 พฤศจิกายน, 2010 - 12:11
Permalink
หึ หึ เปล่า
ไม่ได้คิดถึงใครดอก อารมณ์เหงาน่ะ ไม่ได้ออกไปชมป่าชมเขา เครียดน่ะ ขี่ม้าไม่ได้ เลยลองคิดเรื่องเกาๆสมัยเพิ่งรุ่นหนุ่มเล่นๆ
chai
20 พฤศจิกายน, 2010 - 04:27
Permalink
เพราะๆ
เป็นบทกลอนที่ไพเราะมกๆ
ทำความดีนะครับ จะได้มีความสบายใจ msn/krawmovie@hotmail.com
นายวิษณุ พรมอินทร์
20 พฤศจิกายน, 2010 - 12:09
Permalink
ขอบคุณครับชัย
ว่าไปตามตัวอักษรน่ะ เผื่อว่านานๆไป เด็กๆจะได้ไม่ลืมกลอนแปด ตอนนี้ กลอนแปดตามฉันทลักษณ์ และ นักแต่งกลอน หายหมดแล้ว ตั้งแต่ยุคหลังระบบการศึกษาแบบใหม่
จันทร์เจ้า
20 พฤศจิกายน, 2010 - 09:57
Permalink
พี่ณุ
โอ้คุณพี่ วิษณุ อารมณ์ไหน แต่งได้ไง โคตรไพเราะ เสนาะหู
จนต้องเรียก ให้ผู้คุม ตามมาดู ให้ได้รู้ ว่าผู้แต่ง หน้าตาเป็นไง
อิอิ
พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า
นายวิษณุ พรมอินทร์
20 พฤศจิกายน, 2010 - 12:07
Permalink
นึกถึงจันทร์เจ้า
วันก่อนถามน้องแอนว่าพบจันทร์มั๊ย พอดีไม่เห็นในบ้าน ในเอ็มก็ไม่ออน อีกอย่างข้าพเจ้า มาบ้านสวนแว๊บๆ ไม่ได้อยู่นาน ก็เลยไม่เห็น นึกถึงอยู่
อ้อ อารมณ์ที่เขียนนี่นะเร้อ อารมณ์ว่างนะสิ หง่าวววว เหงาๆ คิดไปเรื่อย ปกติเย็นๆจะไปขี่ม้าไง ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ก็เบื่อๆ เอา เต่งต่อให้อีกบทเอามั๊ย " ศรดอกแรกแรงร้าวสะท้านจิต ระรานพิษซ่านในฤทัยสมาน ศรสองสอนสามทรามซมซาน จนอกกร้านไม่เจ็บหนักดังสักทรวง" ต้องย้ำนะ ว่าบทกลอนบทกวี ต้องสร้างอารมณ์สะเทือนใจ แต่ต้องแยกจากชีวิตจริง ชีวิตจริงน้าณุ มีแต่คุณแม่ต้นกล้า ไม่นอกลู่นอกทางจ้า
หน้า