ในที่สุดเห็ดนางฟ้ากลายเป็นแหนมข้าว ถั่ว เห็ด
ในที่สุดเห็ดนางฟ้ากลายเป็นแหนมข้าว ถั่ว เห็ด
จากวานนี้ที่เกิดเหตุการณ์เห็ดนางฟ้าภูฐานงอกพร้อมกันยี่สิบห้าก้อนจากเห็ดทั้งหมด(นางฟ้าภูบานและยานางิ)สามสิบแปดก้อน
เช้านี้เห็ดรายงานตัวเป็นแถวทหาร...
จึงเก็บบางส่วนมาได้ประมาณครึ่งกิโลกรัม
ยังมีเหลืออีกน่าจะเก็บได้รอบต่อไปเย็นนี้ได้อีกสักครึ่งกิโลกรัม
ขั้นตอนการปรุง
๑.ฉีกเห็ดเป็นเส้น ไม่ต้องฝอย
ลวก สุก ใส่กระชอนสะเด็ดน้ำ ปล่อยให้เย็น
๒.ข้าวกล้องเพาะงอกยี่สิบสี่ชั่วโมง
หุงสุกปล่อยให้เย็น
๓.ถั่วหลากชนิดเพาะงอกยี่สิบสี่ชั่วโมง
ต้ม
บด
และเคี่ยวแห้ง ปล่อยให้เย็น
๔.เมล็ดมะค่า(ถั่วอายุยาว)
มะค่าแต้-มะค่าโมงเพาะงอก
ผ่านการทำให้สุกและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
นำทั้งหมด มาเคล้าเข้ากัน เติมเกลือ พริกไทยป่น กระเทียมบุบแหลก
เน้นหนักที่กระเทียมเพื่อให้ได้รสชาติของแหนม
ปรุงให้ได้รสที่ชอบ วางทิ้งในอุณหภูมิห้องสักหนึ่งถึงสองชั่วโมง
แล้วบรรจุถุง รัดเป็นสามเปลาะโดยไล่อากาศออกจากถุงให้หมด
...วางไว้ในอุณหภูมิห้องต่อได้อีกสองถึงสามวันก็ชิมได้ รสชาติจะเริ่มเปรี้ยว ...
...ยิ่งหลายวันยิ่งเปรี้ยว หากว่าเปรี้ยวมากนำมาผัดข้าวได้....
...แล้ววันนี้ ในที่สุดเห็ดนางฟ้าก็กลายเป็นแหนมข้าว ถั่ว เห็ด รสเยี่ยม....
- บล็อกของ สายพิน
- อ่าน 13713 ครั้ง
ความเห็น
ป้าต่าย
21 มีนาคม, 2011 - 16:42
Permalink
คุณสายพิน
ทำไมถั่วต้องทำให้งอกละคะ
คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก
สายพิน
21 มีนาคม, 2011 - 21:36
Permalink
จากข้อมูลหนังสือกินอยู่ฯฉบับส
จากข้อมูลหนังสือกินอยู่ฯฉบับสมบูรณ์(โดยคุณไพโรจน์ อรรคสีวร) ความว่า *เมล็ดพืช ทุกชนิด เมื่อแก่เต็มที่แล้ว จะพักคล้ายกับคนนอนหลับ การที่จะนำเมล็ดธัญพืชมากิน ซึ่งรวมทั้งเมล็ดข้าวด้วย ควรจะนำไปแช่น้ำให้พอง เพื่อเป็นการปลุกเมล็ดให้ตื่น ก่อนนำไปปรุงเป็นอาหาร ถ้าเป็นเมล็ดที่มีเปลือกแข็ง เช่น เม็ดมะขาม เม็ดมะค่าโมง ฯลฯ ต้องเพาะในดิน
นี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ส่วนตัวเองจึงสบายใจกับการเพาะเมล็ดพืชเพื่อหวังปลุกให้เซลล์เมล็ดพืชตื่น เมื่อนำมาปรุงอาหารแม้จะผ่านความร้อน รับประทานได้เป็นสารตั้งต้นให้เซลล์รางกายน่ะค่ะ
น้องคนเล็ก
21 มีนาคม, 2011 - 16:53
Permalink
คุณสายพิน
ต้องใช้อะไรเท่าไรค่ะ เพื่อจะไปลองทำบ้างค่ะ
สายพิน
21 มีนาคม, 2011 - 21:38
Permalink
คุณน้องคนเล็ก
คุณน้องคนเล็ก ด้วยความยินดีเลยค่ะ สัดส่วน ข้าวต่อถั่วต่อเห็ด อย่างละหนึ่งส่วนนะคะ ที่ทำนี้เห็ดครึ่งกิโลกรัม เกลือประมาณหนึ่งช้อนโต๊ะ ให้ลองชิมไปด้วยนะคะ หากว่าเค็มมากไปอาจลดลงหน่อย หากว่าเค็มน้อยไปก็เพิ่มเกลืออีกสักนิดค่ะ ส่วนกระเทียมประมาณขีดครึ่งถึงสองขีด มากไปหรือน้อยไปสามารถปรับได้ แต่เน้นกระเทียมเข้าไว้ค่ะ ส่วนข้าวหุงให้สวยไว้หน่อยก็จะดีนะคะ เวลาที่เปรี้ยวจะได้ไม่แฉะมากน่ะค่ะ
สาวน้อย
21 มีนาคม, 2011 - 19:08
Permalink
สุดยอดเลยค่ะพี่สายพิน
พี่สายพิน ทำอะไรๆที่ดีเยี่ยมเสมอ....การให้รางวัลแก่ชีวิตด้วยการเสริมสร้างสุขภาพที่ดี แม้จะยุ่งยากแต่ก็คุ้มค่า...ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆๆอีกเช่นเคยค่ะ ....นางฟ้าของน้อย สงสัยหมดไฟแล้ว ชะงักการงอกแล้วค่ะ
ชีวืตที่เพียงพอ..
สายพิน
21 มีนาคม, 2011 - 20:49
Permalink
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะ คุณสาวน้อย...แหนมเป็นสิ่งที่ทำค่อนข้างบ่อยน่ะค่ะ(หากว่าพอมีเวลาบ้าง) เนื่องจากว่าจะได้ทั้งข้าว ถั่ว บางครั้งก็จะใส่งาลงไปด้วย เอาไปทำเป็นแหนมแห้งได้ด้วย เวลาที่ไปต่างจังหวัดหรือเดินทางก็ไม่ต้องห่วงอาหาร กินกับข้าวได้เลย หรือกับผักสด ขิง ได้เลย
ว่าแต่ก้อนเห็ดยังไม่ได้ทิ้งใช่ไหมคะ อยากบอกว่าให้ลองเอาปลายช้อนขูดหน้าก้อนเห็ดให้สะอาดนะคะ แล้วรดน้ำให้ทั่วก้อน ...เอาผ้าชุบน้ำคลุมก้อนเห็ดไว้ ...ทราบว่าช่วงนี้คุณสาวน้อยออกต่างจังหวัดบ่อย ...ไม่เป็นไรนะคะ ไว้เริ่มต้นใหม่ ช่วงที่อยู่บ้านติดๆกันหลายๆวันนะคะ
Slowlife
21 มีนาคม, 2011 - 19:46
Permalink
คุณสายพิณคะ
Slowlife ไม่เคยกินและไม่เคยทำแหนมเห็ด เลยไม่ทราบว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร แต่ไว้จะลองทำไว้กินบ้าง พอดีน้องชายไม่กินเนื้อหมูจะลองทำแหนมแบบนี้ดู ปกติแล้วเวลาได้เห็ดมาเยอะๆ ตอนที่ราคาถูก กิโลละประมาณ 35 บางทีก็สามกิโลร้อย เมนูที่ชอบทำเพราะพี่สาวชอบก็คือ เห็ดหยอง มีเท่าไหร่กินเล่นกันหมด หวาน อร่อย ต้องรอทำเยอะๆ จะได้คุ้มเวลาทอด นอกจากนั้นก็จะมีเมนูพวกเต้าเจี้ยวหลนก็จะใช้เห็ดนี้แทนเนื้อหมู ข้าวต้มเห็ด มีหลายเมนูเหมือนกันค่ะที่ใช้เห็ดพวกนี้แทนเนื้อสัตว์ ขอบคุณสำหรับสูตรนะคะ
บ้านสวนพชร:เมื่อมนุษย์เงินเดือนอยากทำสวน
สายพิน
21 มีนาคม, 2011 - 21:59
Permalink
คุณSlowlife
คุณSlowlife ด้วยความยินดีมากเลยค่ะที่ให้ความสนใจสูตรการทำแหนมเห็ดนี้ รสชาติตอนที่ยังไม่เปรี้ยวจะออกเค็มหวานและเผ็ดจากพริก พริกไทย(ร้อน) กระเทียม(ฉุนหน่อยๆ) แต่ทำเองแต่ละครั้งรสชาติก็จะใกล้เคียงเดิมบ้าง แต่ก็ไม่ต่างกันนัก มีบ้างที่เค็มน้อยไปหน่อยรสก็จะโด่งไปทางเปรี้ยว แต่หากว่ารสชาติที่มีเค็มด้วย เวลาเปรี้ยวแล้วก็จะกลมกลืนกันน่ะค่ะ (บังเอิญกินอะไรอร่อยไปหมด แม้ใบผักอย่างเดียวก็ยังอร่อยน่ะค่ะ)
ขอบคุณมากเลยค่ะ หลากหลายรายการอาหารที่จะใช้เห็ดปรุงได้ ราวกับคุณslowlife รู้ใจว่าเห็ดต้องเยอะมากวันนี้ อย่างเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาเก็บเห็ดได้อีกเจ็ดร้อยกรัม รวมวันนี้เก็บเห็ดได้ถึง 1.2กิโลกรัม ช่วงเย็นคุณแม่ทำเห็ดอบใส่ซี่อิ๊ว และข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด รสชาติดีค่ะ แต่ต้องยั้งๆไว้บ้าง เพราะทราบว่ากินมากนักไม่ดี บางครั้งเยอะไปจะพลอยไม่ย่อยเอาน่ะค่ะ
คุณSlowlife พูดถึงว่าใช้เห็ดแทนเนื้อหมู รู้สึกสนใจเต้าเจี้ยวหลนที่ว่าน่ะค่ะ อยากรบกวนคุณ Slowlife นำวิธีการทำเต้าเจี้ยวหลนมานำเสนอบ้างน่ะค่ะ ...เต้าเจี้ยวหลนนี้ยังไม่เคยทำเลยค่ะ คิดว่าต้องถูกใจแน่ๆเลย ...เคยแต่ซื้อจากร้านน่ะค่ะ หากว่าทำได้เองก็ได้กินเองเลยไม่ต้องไปร้าน ขอขอบคุณมากอีกครั้งค่ะ
แก่
21 มีนาคม, 2011 - 20:05
Permalink
น่าอร่อย
และมีคุณค่าทางโภชนาการ ต้องหัดทำบ้าง ใส่เกลือสัดส่วนอย่างไรครับ
สายพิน
21 มีนาคม, 2011 - 20:35
Permalink
คุณแก่ รสดีเชียวค่ะ
คุณแก่ รสดีเชียวค่ะ ที่ปรุงนี้ประมาณหนึ่งช้อนโต๊ะ (สัดส่วน ข้าว:ถั่ว:เห็ด 1:1:1 ) หรือเกลือประมาณให้ออกเค็มหน่อยค่ะ หากว่าน้อยไปเวลาที่แหนมเปรี้ยวก็จะได้เปรี้ยวเด่น หากว่าออกเค็มหน่อยก็จะทำให้รสชาติดีกว่า ให้เคล้าเกลือก่อน แล้วเห็ดตามหลังสุดนะคะ
อ้อ คือวันนี้ใช้เห็ดครึ่งกิโลกรัมค่ะ
หน้า