เขียนโดย sothorn เมื่อ 27 เมษายน, 2009 - 22:49
ได้มาพักที่บ้านวังน้ำเขียวลอดจ์ เพราะมาเป็นวิทยากรสอนลีนุกซ์ เดินทางมาถึงที่พักประมาณบ่ายโมง ประมาณบ่ายสี่โมงแดดร่มลมตกก็เดินเที่ยวบริเวณรีสอร์ท บริเวณรีสอร์ทมีตะไคร้ปลูกอยู่เต็มไปหมด เดินไปเดินมาเจอป้ายหนึ่งเขียนว่า "แปลงเกษตร" โอ้! รีสอร์ทมีแปลงเกษตร เข้าทางเลย แต่สอบถามทางไปแล้วต้องเดินขึ้นเขาไป เอาล่ะขึ้นเขาก็ขึ้นยอมเหนื่อย ขึ้นไปถึงก็หายเหนื่อยครับเมื่อ เจอกับแปลงเกษตรที่มีผักอยู่บ้างไม่เต็มร่อง แต่ก็มีร่องรอยการปลูก และการเก็บ มีสลัดแดงด้วยสวยมากรีบถ่ายรูปเก็บเอาไว้ เดินไปเดินมาเจอกับโรงเพาะเห็ด แต่ไม่มีเห็ดมีแต่ก้อนเชื้อเห็ดที่เก็บเห็ดไปแล้ว เจอพี่ผู้ชายคนหนึ่งผมทักไป สวัสดีครับ ขอดูสวนหน่อยนะครับ เขาตอบกลับมา ยินดีครับ คุยไปคุยมาพี่เขาชวนไปดูเห็ดหอม โอ้โอ เห็ดหอมกำลังออกดอก
เขียนโดย sothorn เมื่อ 25 เมษายน, 2009 - 11:17
เมื่อวานเสร็จจากงานอบรมก็เดินทางไปสวนป่าของ พ่อครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ ที่อำเภอสะตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ไปถึงสะตึกแล้วพี่โทรให้พี่คอน ออกมารับเนื่องจากไม่เคยไปซึ่งอาจหลงทางได้ ไปถึงก็พบกับสมาชิก เฮฮาศาสตร์ หลายคนที่มาเที่ยวที่สวนป่าเพราะมีกลุ่มนักศึกษาแพทย์มาทำกิจกรรมที่สวนป่า ผมมีเวลาอยู่ที่สวนป่าไม่มากนักเพราะต้องเดินทางต่อ พ่อครูก็เลยนำเที่ยวสวนป่า ผมตื่นเต้นกับน้ำเต้าลูกโตมากๆๆๆ จึงนำรูปมาฝาก

เขียนโดย แป๋ม_พัทลุง เมื่อ 22 เมษายน, 2009 - 09:30
ผักพื้นบ้าน เป็นคำที่คุ้นเคยกับสังคมไทยมานาน แต่ดูเหมือนว่าจะเริ่มเลือนลางลงไปบ้าง โดยเฉพาะในช่วงที่คนไทยหันไปบริโภคผักเศรษฐกิจ จำพวกผักคะน้า กวางตุ้ง แตงกวา เพื่อหวังบริโภคผักตามกระแสนิยมจะส่งผลให้มีสุขภาพที่ดี แข็งแรง แต่ตรงข้ามผักเหล่านั้นแม้จะมีคุณค่าทางอาหาร แต่กระบวนการเพาะปลูกก็ได้เพิ่มสารอันตรายลงไปในผักด้วยเช่นกัน สารแคมีตกค้างต่างๆ จึงเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จนกลายเป็นสาเหตุของโรคร้ายทำลายชีวิตคน
การหันมารับประทานผักพื้นบ้านที่ขึ้นอยู่ตามริมรั้ว ริมธาร ตามกระบวนการธรรมชาติ ที่ไม่ต้องจัดการดูแล หรือกำจักศัตรู ก็ทำให้ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ ผักพื้นบ้าที่นำมาประกอบอาหารแย่เป็นประจำในครัวเรือนนั้นต่างมีประโยชน์อนันต์ เชื่อว่าหลายคนที่ไม่เคยสนใจต้องกลับมามองและบริโภคอย่างเต็มใจทีเดียว
ตัวอย่างของผักพื้นบ้านที่หาได้ง่ายและได้ประโยชน์มากมาย เช่น
1. พริก มีสารแคปไซซิน กระตุ้นการขยายตัวของหลอดเลือด ช่วยเจริญอาหาร ขับเหงื่อ
2. สะระแหน่ กลิ่นหอมเย็นของใบให้ความสดชื่น ทำให้สมองปลอดโปร่ง แก้ปวดหัว
3. ชะอม ช่วยลดความร้อนในร่างกาย ขับลมในลำไส้ มีเส้นใยช่วยจับอนุมูลอิสระ
เขียนโดย แป๋ม_พัทลุง เมื่อ 21 เมษายน, 2009 - 10:37
กล้วยน้ำว้า เป็นพืชที่ทุกคนรู้จักดี เป้นผลไม้ เป็นผัก เป็นอาหารคาว อาหารหวาน อาหารว่าง ใช้ประดยชน์ได้ทุกส่วน เช่น ต้นสดใช้เป็นอาหารสตว์ เป็นภาชนะ เป็นวัสดุอุปกรณื เป็นของเล่นและเป็นส่วนสำคัญในพิธีกรรมหลายอย่าง ให้พลังงานสูงกว่ากล้วยอื่น ๆ และมีสรรพคุณทางยาดังนี้
ยาง รสฝาด สมานแผล ห้ามเลือด
ผลดิบ รสฝาด ทั้งเปลือกหั่นตากแห้ง บดเป็นผง ชงน้ำร้อน หรือปั้นเป็นเม็ดรับประทาน รักษาแผลในกระเพาะอาหาร แก้ท้องเสียเรื้อรังซึ่งทำให้อาหารไม่ย่อย ใช้โรยแผลเรื้อรัง แผลเน่าเปื่อย และแผลติดเชื้อต่าง ๆ
ผลสุก รสหวาน ระบายอุจจาระ บำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
หัวปลี รสฝาด แก้โรคในกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้โลหิตจาง ลดน้ำตาลในเลือด รักษาเบาหวาน
ใบ รสจืดเย็น ปิ้งไฟ ปิดแผลรักษาแผลไฟไม้ ต้มอาบแก้ผดผื่นคัน
นอกจากนี้กล้วยยังมีประโยชน์อีกมากมาย ใช้รักษาอาการและโรคต่าง ๆ ได้ เช่น
ท้องเดิน ใช้กล้วยดิบทั้งเปลือกฝานบาง ๆ ผึ่งลมให้แห้ง รับประทานครั้งละ 1/2-1 ผล
เขียนโดย แป๋ม_พัทลุง เมื่อ 20 เมษายน, 2009 - 15:07
สวัสดีค่ะ แป๋มเป็นสมาชิกใหม่อยากขอคำแนะนำ
บ้านที่พัทลุงกำลังจะโค่นยางปลูกใหม่ เนื้อที่ไม่เยอะมาก ประมาณ 5 ไร่
อยากปลูกพืชผักดตเร็วเป็นรายได้เสริม แต่ยังทำปุ๋ยอินทรีย์ใช้เองไม่เป็น
ชอบ ควรปลูกพืชชนิดไหนได้บ้าง ตามลักษณะดินฟ้า อากาศบ้านเรา
ที่คิดไว้ก็เยอะ ไม่ว่าจะเป็ ถั่วฝักยาว มะระ ฟักทอง ขี้พร้า ข้าวโพด กล้วย บวบ ผักเหลียง
พริก ส้มจี๊ด กระชาย ขมิ้น จะไม่ปลูกผักเชิงเดี่ยวจะให้ผลผลิตดีมากน้อยแค่ไหน เพราะกว่ายางจะโต คงปลูกพืชพวกนี้ได้ สัก ปี 2 ปี
ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ เพราะว่าเคยแต่กรีดยาง และทำนา กับปลูกผักเองเล็ก ๆน้อย ข้างบ้าน พอมีพื้นที่เยอะขนาดนี้ไม่แน่ใจว่าจะจัดการได้หรือเปล่า
ขอบคุณค่ะ
เขียนโดย sothorn เมื่อ 16 เมษายน, 2009 - 09:15
เนื่องจากมีภาระกิจในการเป็นวิทยากรสอนลีนุกซ์ จำเป็นต้องจากบ้านไปหลายวัน โชคดีที่ผักปลูกเอาไว้ไม่จำเป็นต้องดูแลมาก ให้พ่อแม่ดูแลให้แทน ประกอบกับช่วงนี้พืชผักกำลังจะให้ผลผลิต กลับมาคงได้กิน เช้านี้เลยเกินเก็บรูปเอาไว้ นำมาฝากก่อนจากไปหลายวัน
มะเขือเทศกระสอบกำลังออกดอก บางส่วนก็ติดลูกแล้ว

เขียนโดย sothorn เมื่อ 2 เมษายน, 2009 - 21:06
ชีวิตเกษตรกรต้องพึ่งพาธรรมชาติอยู่พอสมควร แล้งมากไปก็ไม่ดี ฝนตกมากไปก็ไม่ดี ลมพัดแรงก็ไม่ดี เช่นวันนี้ครับ ฝนตกหนัก ลมแรงก็เป็นผลให้ข้าวโพดที่ปลูกเอาไว้เป็นดังภาพ

ภาพด้านล่างถ่ายเมื่อ 26 มีนาคม 2552 บนกับล่างห่างกัน 7 วัน
เขียนโดย sothorn เมื่อ 27 มีนาคม, 2009 - 08:24
เรื่องของการเพาะเห็ด ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมใฝ่ฝันอยากจะทำ ก่อนหน้านี้ก็ได้แต่คิด ได้แต่อ่านหนังสือ แล้วก็ไม่ได้ทำ เพราะไม่รู้แหล่งซื้อเชื้อเห็ด เมื่อเวลาจะได้ทำมันก็ได้ทำ เนื่องจากได้เล่าให้อาจารย์ที่รู้จักกันท่านหนึ่งฟัง ว่าผมอยากเพาะเห็ดฟาง อาจารย์ก็บอกว่าเดี๋ยวจะไปซื้อเชื้อเห็ดฟางมาให้ลองเพาะดู หลังจากนั้นสองสามวันอาจารย์ก็ซื้อเชื้อเห็ดมาให้ 4 ถุง แถมยังไม่เอาเงินผมอีก แถมยังบอกวิธีการเพาะมาให้ ได้เชื้อเห็ดมาแล้วทำไงต่อล่ะคราวนี้ ประกอบกับเชื้อเห็ดยังเดินไม่เต็มที่ก็เลยมีเวลาคิด สองสามวัน จะเอายังไงดีเนี่ย ถ้าจะเพาะแบบกองเหมือนร่องผักเชื้อเห็ดก็น้อยเกินไป ไหนต้องทำที่สำหรับอัดฟางอีก ไม่เอาดีกว่า ดูในหนังสือมีวิธีการเพาะเห็ดฟางในกระถางเขาใช้สารเคมี 2 ตัว ไม่รู้ซื้อที่ไหน ถ้าเพาะในกระถางต้องเสียเงินซื้อกระถางอีก เอาไงดีหว่า สุดท้ายหาเหตุผลเข้าขางตัวเอง ซื้อกระถางก็ซื้อ เห็ดไม่งอกก็เอากระถางมาใช้ต่อได้ ตัดสินใจซื้อกระถางพลาสติก ขนาด 12 นิ้ว 8 ใบ ราคาใบละ 25 บ. เป็นเงิน 200 บ. สารเคมีที่เขาใช้ ผมไม่ใช้ลองดูว่าเห็ดมันจะงอกมั๊ยได้เวลาลงมือทำ
หน้า